Blogs & Articles

การตลาดออนไลน์ (Online Marketing) คืออะไร ? พร้อมตัวช่วยในยุคนี้

การตลาดออนไลน์

ในยุคนี้ไม่ว่าใครก็ต้องเริ่มหันมาทำการตลาดออนไลน์ (Digital Marketing) กันทั้งนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันธุรกิจออนไลน์กำลังเจริญเติบโต สาเหตุก็เพราะต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน สังคมออนไลน์ หรือสังคมแห่งโลกโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น หรือผู้สูงอายุต่างพากันนิยมชมชอบกระแสเหล่านี้จนกลายเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรม ผู้คนเสพสื่อผ่านอินเตอร์เน็ตมากยิ่งขึ้น หากธุรกิจไม่ปรับตัวให้ทันตามเหตุการณ์บ้านเมืองก็อาจก่อให้เกิดความล้าสมัย และเป็นอันต้องพ่ายแพ้ให้กับธุรกิจคู่แข่งเพราะโดนแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดไปจนหมดสิ้น 

ดังนั้น วันนี้ทีมงาน Mandala AI จะขอพูดถึงการตลาดออนไลน์ว่าคืออะไร และมีตัวช่วยอะไรที่คุณห้ามพลาด เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับการทำธุรกิจในทุกๆ แง่มุม จะน่าสนใจแค่ไหนมาติดตามไปพร้อมๆ กันเลย 

เนื้อหาบทความ

การตลาดออนไลน์ (Online Marketing)

การตลาดออนไลน์ (Online Marketing) คือ การทำการตลาดที่ใช้ช่องทางดิจิทัล เช่น เสิร์ชเอนจิน (Search Engine) โซเชียลมีเดียต่าง ๆ (Social Media) อีเมล (Email) และเว็บไซต์ เพื่อส่งเสริมและจำหน่ายสินค้าหรือบริการ โดยเกี่ยวข้องกับเทคนิคต่าง ๆ ดังนี้ SEO (Search Engine Optimization), การซื้อโฆษณา, Content Marketing, Social Media MarketingEmail Marketing และอื่น ๆ เพื่อเข้าถึง และดึงดูดลูกค้าที่มีศักยภาพ เป้าหมายหลัก ๆ ของการทำการตลาดออนไลน์ คือการผลักดันการเข้าชมการสร้างโอกาสในการขายและเพิ่มยอดขายและรายได้ของธุรกิจในที่สุด


การตลาดออนไลน์ (Online Marketing) มีอะไรบ้าง


1. Social Media Marketing (SMM)

ช่องทางการตลาดออนไลน์ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้า โดยมีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ  เช่น Facebook, X, YouTube, TikTok และ Instagram ซึ่งช่วยให้ธุรกิจมีโอกาสที่จะมีส่วนร่วมกับลูกค้าและสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขา การตลาดบนโซเชียลมีเดียเกี่ยวข้องกับการสร้างและแบ่งปันเนื้อหาที่เกี่ยวข้องและมีคุณค่าต่อกลุ่มเป้าหมายของคุณ เช่น บล็อกโพสต์ วิดีโอ และอินโฟกราฟิก และการใช้โฆษณาแบบชำระเงินเพื่อเข้าถึงผู้ชมที่กว้างขึ้น

2. Search Engine Optimize 
การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหา (SEO) เป็นส่วนสำคัญของการตลาดออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์และเนื้อหาของคุณ เพื่อปรับปรุงการจัดอันดับเว็บไซต์คุณให้อยู่ในอันดับที่ดีง่ายต่อการค้นหาบน Seach ของทาง Google เช่น การปรับปรุงเนื้อหาบทความหรือข้อความที่ต้องการสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าให้มีความทันสมัยและตอบโจทย์ผู้ค้นหานั้นจริง ๆ Google ก็จะจัดอันดับเว็บไซต์ให้อยู่อันดับที่ดีขึ้นใน Google Search โดยหากทำนักการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจมีการทำ Search Engine Optimize (SEO) คุณจะสามารถเพิ่มโอกาสที่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าจะค้นพบธุรกิจของคุณเมื่อค้นหาผลิตภัณฑ์หรือบริการออนไลน์ 


3. Email Marketing 
การตลาดทางอีเมลเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการส่งอีเมลส่งเสริมการขายไปยังสมาชิกที่เลือกรับข้อมูลอัปเดตจากธุรกิจของคุณ ซึ่งอาจรวมถึงจดหมายข่าว ข้อเสนอส่งเสริมการขาย และข้อความทางการตลาดอื่นๆ ที่ปรับให้เหมาะกับความสนใจและความต้องการของผู้ชมเป้าหมายของคุณ 

ศึกษาเพิ่มเติม: การทำ E-mail Marketing ที่สุดของกลยุทธ์ออนไลน์

4. Line Marketing

Line Marketing คือ การตลาดผ่านแอพพลิเคชั่น อย่างเช่น Line ด้วยการเผยแพร่ข่าวสาร อัพเดทโปรโมชั่น ต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นแอพพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยการเก็บรวมข้อมูลพบว่าในประเทศไทยของเรามีผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่น Line มากกว่า 83 % เลยทีเดียว


5. Influencer Marketing
คือ การทำการตลาดออนไลน์โดยใช้ผู้มีอิทธิพลบนโลกอินเตอร์เน็ท ในอุตสหกรรมต่าง ๆ มาสร้างเเรงจูงใจในการซื้อสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้า โดยส่วนใหญ่ Influencer คือ ศิลปิน ดารา นักร้อง นักเเสดง บล็อคเกอร์ ยูทูปเบอร์ แคสเตอร์ต่าง ๆ เป็นต้น โดย Influencer ที่เลือกใช้นั้นควรเป็นคนที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่ตั้งไว้และสามารถสร้างความเชื่อมโยง กลมกลืนไปกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อเเละกระตุ้นยอดขายเพิ่มมากขึ้น

6. Content Marketing

Content Marketing เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการตลาดออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างและแบ่งปันเนื้อหาที่มีคุณค่า สดใหม่ และเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ ซึ่งอาจรวมถึงบล็อกโพสต์ วิดีโอ อินโฟกราฟิก และเนื้อหาที่เป็น Evergreen content ที่ออกแบบมาเพื่อให้ความรู้ ความบันเทิง และมีส่วนร่วมกับผู้ชมของคุณ

7. Online Advertising

การโฆษณาออนไลน์ยังเป็นรูปแบบการตลาดออนไลน์ยอดนิยมที่เกี่ยวข้องกับการวางโฆษณาบนเว็บไซต์ เครื่องมือค้นหา และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ซึ่งอาจรวมถึงการโฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก (PPC) โฆษณาแบบดิสเพลย์ และการโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งสามารถกำหนดเป้าหมายได้สูงเพื่อเข้าถึงผู้ชมเฉพาะกลุ่มและกระตุ้นการเข้าชมเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ของคุณ


8. Affiliate marketing 

Affiliate Marketing เป็นการตลาดตามผลงาน (Performance Based Marketing) ซึ่งเจ้าของสินค้าจะให้รางวัลหรือค่าคอมมิชชั่นแก่ Content Creator ที่ช่วยแนะนำสินค้าให้กับอีกคนนึงตาม ซึ่งขึ้นอยู่กับ Performance ของคอนเทนต์นั้นและยอดขายที่เกิดขึ้นจริง การทำการตลาดในรูปแบบนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของสินค้า และ Content Creator ที่แนะนำสินค้า และยังสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย


9. Banner 
การทำโฆษณาโดยใช้ Banner ของเว็บไซต์ต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งกระแสที่ค่อนข้างจะได้รับความสำคัญ เพราะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจอาหารที่นำโฆษณาไปฝากไว้ตามเว็บไซต์อาหาร หรือเว็บไซต์แหล่งรวบรวมร้านอาหาร รีวิวร้านอาหาร ในขณะที่ธุรกิจโรงแรมได้นำโปสเตอร์โฆษณาไปฝากไว้ตามเว็บท่องเที่ยว เป็นต้น


10. SMS

การทำการตลาด SMS จะคล้ายกับการทำการตลาดผ่านอีเมลที่ลูกค้าจะต้องลงทะเบียนก่อนเพื่อรับข้อมูล โปรโมชั่นต่างๆ เพียงแต่ การทำการตลาดผ่าน SMS นั้นจะสั้น และมีความเป็นไปได้ที่จะถูกเปิดอ่านมากกว่า เนื่องจากผู้คนราวๆ 97 เปอร์เซ็นใช้เวลาไปกับมือถือ ซึ่งการทำการตลาดผ่านข้อความสั้นเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ดี ถ้าหากมีการแบ่งกลุ่มลูกค้าละเอียด เช่น พฤติกรรมการซื้อ หรือ พื้นที่ที่ลูกค้าอยู่

ประโยชน์ของการตลาดออนไลน์ (Online Marketing)


การตลาดออนไลน์มีความสำคัญอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการตลาดที่ทำผ่านข้อความ ตัวอักษร รูปภาพ หรือวิดีโอ ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน นอกจากจะช่วยให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวางแล้ว ยังเป็นการประหยัดต้นทุนอีกด้วย โดยประโยชน์ของการตลาดออนไลน์ มีดังต่อไปนี้ 

1.เข้าถึงลูกค้าจำนวนมาก

ในโลกออนไลน์เป็นโลกแห่งการสื่อสารที่ไร้พรมแดน ดังนั้น การทำการตลาดออนไลน์จะช่วยให้สามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงลูกค้าได้เฉพาะกลุ่มที่ต้องการ หรือเป็นลูกค้าในกลุ่มเป้าหมาย เพื่อการกระจายสินค้าให้ตรงจุด หรือตรงต่อความต้องการของผู้บริโภค 

2.สร้างภาพลักษณ์ที่ดี 

เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ธุรกิจ และช่วยให้สินค้าเป็นที่จดจำได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นแล้วยังสามารถใช้ช่องทางออนไลน์ในการสร้างทีมขาย หรือระบบตัวแทนจำหน่าย เพื่อกระจายสินค้าให้ผู้คนรู้จักแบรนด์มากยิ่งขึ้นอีกด้วย 

3.ใช้ต้นทุนต่ำ 

การตลาดออนไลน์นอกจากจะทำให้ผู้คนรู้จักสินค้า หรือซื้อบริการได้เพิ่มมากขึ้นแล้ว เรียกได้ว่าเป็นช่องทางที่ใช้ต้นทุนต่ำมากๆ อีกด้วย ในทางตรงกันข้ามก็สามารถสร้างกำไรได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว และเป็นผลดีมากๆ สำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ไม่มีเงินทุนสูงมากนัก 

4.ทำการตลาดได้ 24 ชม.

อีกหนึ่งข้อดีของการทำการตลาดออนไลน์ก็คือ สามารถทำการตลาดได้ตลอด 24 ชม. ไม่มีวันหยุด เพราะบนโลกออนไลน์ไม่มีการหลับใหล ทุกคนสามารถเข้าใช้งานได้ตลอดเวลา ช่วยอำนวยความสะดวกให้การซื้อขายสามารถทำได้ตลอด 24 ชม.

5.วัดผลได้โดยง่าย 

การวัดผลการตลาดออนไลน์สามารถวัดผลได้โดยง่ายด้วยเครื่องมือที่ถูกคิดค้นหรือพัฒนาขึ้นมารองรับบริการด้านนี้โดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น การโฆษณาบน Google Ads ที่มีระบบ Analytics สามารถโชว์ผลลัพธ์จากการทำโฆษณาทุกรูปแบบบน Google Ads ทำให้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งวิเคราะห์ หรือพล็อตกราฟเองให้ยุ่งยาก เป็นต้น 

6.สร้างความสัมพันธ์ที่ดี

การตลาดออนไลน์เป็นการทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ไม่ว่าจะเป็นบริการให้คำปรึกษาหลังการขาย หรือบริการสอบถามปัญหาการใช้งานในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยี AI ที่เข้ามามีบทความเพิ่มมากขึ้น โดยระบบ Chatbot ที่ทำหน้าพูดคุยกับลูกค้า หรือสามารถรับมือกับลูกค้าจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ


การตลาดออนไลน์

อย่างไรก็ตาม นักการตลาดค้นพบว่าผู้บริโภคไม่ชอบการโฆษณาในรูปแบบที่ตรงไปตรงมามากจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้ดูน่าเบื่อ ดังนั้น จึงนิยมการโฆษณาแอบแฝงเสียมากกว่า อีกประการหนึ่งคือ นักการตลาดปัจจุบันยังค้นพบอีกว่า การโฆษณาในรูปแบบของข้อความหรือตัวหนังสือนั้นมักจะได้รับความนิยมไม่มากนัก ในขณะที่การสื่อสารหรือการโฆษณาผ่านรูปภาพจะได้รับความนิยมมากกว่า อย่างไรก็ตามการโฆษณาที่ได้รับความนิยมบนโลกออนไลน์มากที่สุดในตอนนี้ก็คือ การนำเสนอในรูปแบบของวิดีโอ อย่างเช่น พวก Viral Clip ต่างๆ ที่ถูกแชร์จนดังภายในชั่วข้ามคืน 


เครื่องมือ MarTech Tools  ที่นักการตลาดออนไลน์ควรรู้จักในปี 2024

Social listening เครื่องมือสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ที่ห้ามพลาด


ในปัจจุบันคงหนีไม่พ้น Social Listening Tools เครื่องมือที่ใช้สำหรับการทำการตลาดออนไลน์ที่น่าสนใจ เนื่องจากการสื่อสารทุกวันนี้มักเกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันนั้นเน้นสื่อสาร ทำคอนเทนต์ เเละ ทำการตลาดอยู่บนโลกโซเชียลมีเดียเป็นหลัก โดยรูปแบบการสื่อสารทั้งหมดเป็นการสื่อสารที่มีความรวดเร็วสูง และมีข้อมูลเป็นจำนวนมาก หากผู้ประกอบการต้องคอยนั่งอ่านข้อความหรือสำรวจค้นหาข้อความเองจากสื่อโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มก็คงเสียเวลาไม่น้อยเลยทีเดียวดังนั้นเครื่องมือ Social listening tools จึงเป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์เเละสำคัญเป็นอย่างมากในการทำการตลาดออนไลน์อย่างมากในปัจจุบัน


 Mandala Analytics Dashboard


วันนี้เราจึงอยากแนะนำเครื่องมือ Social Listening น้องใหม่มาแรงอย่าง “Mandala Analytics” ซึ่งจะมีส่วนเข้ามาช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กเป็นอย่างมาก เครื่องมือ Mandala Analytics นั้นสามารถลดต้นทุนทางด้านเวลา ราคา และกำลังคนในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากสื่อโซเชียลมีเดียหลากหลายแพลตฟอร์มลงได้อย่างมหาศาล พร้อมทั้งสามารถตอบโจทย์การค้นหารูปแบบตัวอย่าง Content ที่คนส่วนใหญ่มักให้ความสนใจบนโลกออนไลน์ เพื่อมาปรับปรุง Content ของเราให้มีคุณภาพ และสามารถอยู่ในลำดับต้น ๆ ของ Google ได้, ค้นหา เทรนด์, คีย์เวิร์ดและแฮชแท็ก ที่กำลังเป็นกระแสหรือเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน เพื่อทำการตลาดให้สอดคล้องไปกับสถานการณ์นั้น ๆ


 Mandala Analytics Dashboard 


รวมไปถึงสามารถติดตามโปรโมชั่นต่าง ๆ  อารมณ์ความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมายต่อโปรโมชั่นนั้น รู้ทันความเคลื่อนไหวของคู่แข่ง เพื่อมาปรับใช้กับธุรกิจของเรา แถมยังรู้ได้อีกว่าเราควรโพสต์ข้อความช่วงวัน และเวลาไหนดีถึงจะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของเราได้มากที่สุด

Mandala Analytics Dashboard


ตัวอย่างการหาโปรโมชั่นสำหรับเพิ่มยอดขายทางการตลาดที่กำลังเป็นที่นิยมในโซเชียลมีเดียโดยใช้ฟังชั่นก์คีย์เวิร์ดและแฮชแท็กในการสำรวจว่าทางเเบรนด์อื่นมีการจัดโปรโมชั่นทางการตลาดออนไลน์อย่างไรเเละได้รับผลตอบรับขนาดไหนเพื่อเป็นส่วนประกอบในการวิเคราะห์เเละตัดสินใจในการจัดทำโปรโมชั่นทางการตลาดของนักการตลาดหรือผู้ประกอบการที่ต้องการทำโปรโมชั่นรวมทั้งยังสามารถคอยดูโปรโมชั่นของคู่แข่งแบรนด์อื่นว่ามีผลตอบรับจากการทำโปรโมชั่นเป็นอย่างไรกระตุ้นยอดขาดเพิ่มได้หรือไม่? เพื่อนำข้อมูลนั้นมาศึกษาเป็นไอเดียเพิ่มเติมเเละปรับใช้เข้ากับเเผนการตลาดของเเบรนด์คุณ

Mandala Analytics Dashboard


ที่สำคัญหน้า Report ของ Mandala Analytics นั้นมีหน้าตาที่ดูเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เข้าใจได้ง่าย สามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์เเละนำเสนอได้เลยเหมาะสำหรับนักการตลาด, นักวิเคราะห์, Agency การตลาด, นักศึกษา, เจ้าของกิจการ และคอนเทนต์ ครีเอเตอร์



 Mandala Analytics Dashboard 


ทั้งนี้ในหน้า Report นี้เราสามารถเลือกดู Top 5 Channels ที่มีค่า Engagement ที่สูงใน Platform ต่าง ๆ เช่น Facebook, Twitter, Instagram, YouTube และ Pantip เพื่อเป็นการคัดเลือก Kol/Influencer สำหรับทำการตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพได้อีกด้วย ยิ่ง Engagement สูงเท่าไหร่การมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมายของเราก็ยิ่งมากขึ้น, ผู้บริโภคอินกับสินค้าที่นำเสนอมากขึ้นอย่าโฟกัสอยู่แค่ Follower และ Reach จนมากเกินไปมิเช่นนั้นอาจจะทำให้ไม่เกิดประสิทธิภาพความคุ้มค่ากับที่เราลงทุนไป 


ตัวอย่างคลิปวีดีโอนี้จะมาแชร์ตัวอย่างในการเลือก Influencer เนื่องจากในปัจจุบันการทำการตลาดออนไลน์หลายๆ เเบรนด์ทั่วโลกนั้นได้มีการเลือกใช้ Kol/Influencer เป็นจำนวนมากดังนั้นแบรนด์เองจึงต้องสำรวจหา Kol/Influencer ที่เหมาะสมกับสินค้าและบริการ มีภาพลักษณ์ที่ดี มีความน่าเชื่อถือ สามารถที่จะทำคอนเทนต์ตอบโจทย์แบรนด์ได้, ตีโจทย์ที่แบรนด์ให้แตก, ทำคอนเทนต์ได้โดนใจผู้ติดตามและกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการจริง ๆ

 

 Mandala Analytics Dashboard

 

เครื่องมือ Mandala Analytics ยังสามารถช่วยวิเคราะห์เวลาการโพสต์ในฟังก์ชั่น Time Analytics ว่าช่วงเวลาไหนเหมาะสำหรับการโพสต์มากที่สุด ช่วงเวลาไหนมีการโพสต์เป็นจำนวนมาก โดยเราเลือกดูคอนเทนต์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นๆ และช่วงเวลาที่เกิดขึ้นนั้นคู่เเข่งหรือเเบรนด์อื่นเค้าทำคอนเทนต์อย่างไรกัน หรือหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีการโพสต์จำนวนมาก ซึ่งในฟังก์ชั่นก์นี้สามารถเป็นตัวช่วยอย่างมากให้กับนักการตลาดออนไลน์ในบางครั้งนักการตลาดหรือคอนเทนต์ ครีเอเตอร์มักมองข้ามจุดนี้ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญสำหรับการวางเเผนทางการตลาดและวางเเผนเวลาโพสต์คอนเทนต์ของตัวเอง


โดยฟังก์ชันทั้งหมดนี้รวมอยู่ใน Mandala Analytics และยังมีฟังก์ชันอีกหลายๆ ฟังก์ชันที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์กับผู้ใช้งานที่สามารถช่วยเหลือนักการตลาดออนไลน์, พ่อค้าเเม่ค้าออนไลน์ และผู้ประกอบการขนาดใหญ่เเละเล็กได้อย่างมาก หากสนใจเครื่องมือ Mandala Analytics สามารถทดลองใช้งานฟรี ได้ที่ Free Trial 15 day และนี่ก็คือ การตลาดออนไลน์ ความสำคัญที่น่าสนใจในยุคปัจจุบันที่ธุรกิจจำเป็นต้องเรียนรู้จนนำไปสู่การปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อความอยู่รอด และสร้างความสำเร็จบนเส้นทางของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน