Facebook นั้นเป็นแบบฟอร์ม Social Media ที่ทรงอิทธิพลและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน นอกจากจะได้รับความนิยมสำหรับผู้ใช้งานหรือ User ทั่วไปแล้ว ยังสร้างความสนใจให้กับธุรกิจออนไลน์ ที่มุ่งแสวงหาผลกำไร โดยใช้ช่องทาง Social Media อย่าง Facebook เป็นเครื่องมือในการทำการตลาด หากคุณสามารถสร้างโฆษณาที่มีประสิทธิภาพและเจาะเข้ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ จะยิ่งทำให้มีโอกาสประสบความสำเร็จเพิ่มมากขึ้น
การทำการตลาดออนไลน์ ด้วย Facebook
วันนี้เราจะมาแนะนำการทำการตลาดออนไลน์ ด้วย Facebook ให้ประสบความสำเร็จ ต้องทำอย่างไรบ้าง โดยมีเคล็ดลับดังต่อไปนี้
1.รู้จักกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แท้จริง
ก่อนทำ Content บน Facebook หรือยิงแอด ปัจจัยที่สำคัญที่สุดก็คือ ควรรู้จักกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แท้จริงก่อน ซึ่งคุณจำเป็นต้องรู้ข้อมูลในเชิงลึก เช่น เพศ อายุ ความชอบหรือ ความสนใจ ช่วงเวลาในการตัดสินใจซื้อ รวมถึงไลฟ์สไตล์อื่น ๆ ซึ่งกระบวนการนี้เรียกว่าการกำหนด Buyer Persona
ก่อนยิงโฆษณาหรือทำ Content ใด ๆ ก็ตาม ธุรกิจจำเป็นต้องระบุกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ชัดเจน และเจาะจง เพื่อให้ประสิทธิภาพในการทำงาน หรือการยิงโฆษณา ได้ผลลัพธ์อันเป็นที่น่าพึงพอใจมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยประหยัดเงินลงทุนได้เป็นอย่างมาก เพราะการที่คุณสุ่มยิงโฆษณาไปโดยไม่มีเป้าหมายหรือจุดหมายปลายทางที่ชัดเจน อาจทำให้ต้องสูญเสียงบประมาณจำนวนมาก แต่กลับได้ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพึงพอใจเท่าที่ควร โดยคุณสามารถศึกษา หรือใช้เครื่องมือ Social Listening Tools อย่าง Mandala Analytics เพื่อช่วยในการรวบรวมข้อมูล และค้นหากลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงของคุณได้
2.ใช้ Facebook Advert เพื่อเร่งประสิทธิภาพ
Facebook Advert เป็นเครื่องมือโฆษณาของ Facebook ที่มีฟังก์ชันให้คุณเลือกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น Facebook Page Engagement ผ่านการบูตโพสต์ เพื่อให้โพสต์ของคุณไปแสดงบนไทม์ไลน์ของลูกค้า และหากโพสต์ของคุณสามารถดึงดูดความสนใจหรือเป็น Content ที่อยู่ในกระแส ก็จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้ติดตามเพจได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นหรือการกดไลค์ และกดแชร์เช่นเดียวกัน นอกจากนั้นยังมีเครื่องมือต่างๆ อีกมากมายที่ใช้โฆษณาอย่าง Click to Website คือการโฆษณาที่ฝังลิงค์ เพื่อเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของคุณ ช่วยเพิ่มโอกาสที่จะปิดการขายได้มากขึ้น หรือจะเป็น App Installs คือ การส่งโฆษณา เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นได้ทันที
โดยสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ หรือช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ และกระตุ้นยอดขายให้กับธุรกิจของคุณ อย่างไรก็ตาม การโฆษณาโดยใช้เครื่องมือเหล่านี้ อาจจะต้องใช้เงินลงทุนจำนวนหนึ่ง ซึ่งถ้าหากคุณไม่อยากต้องสูญเสียเงินลงทุนโดยเปล่าประโยชน์ก็ต้องย้อนกลับไปดูที่ข้อ 1 ก็คือ การศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคในเชิงลึก และเจาะลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เพื่อทำให้โฆษณาของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
3.เพิ่มปุ่ม Share Content ไปยังเว็บไซต์ของ Facebook
หากธุรกิจของคุณมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง นอกจากจะให้ความสำคัญกับเรื่องของ Content บนเว็บไซต์ด้วยการสร้างเนื้อหาที่มีความโดดเด่นและสามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้แล้ว อีกเทคนิคหนึ่งที่สำคัญก็คือ อย่าลืมเพิ่มปุ่ม Share Content ไปยังเว็บไซต์ของ Facebook ด้วย เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้บริโภคเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ และเกิดประทับใจใน Content นั้นๆ พวกเขาต้องการที่จะแชร์ออกไปยัง Facebook เพื่อทำให้เพื่อนคนอื่น ๆ เห็น Content นั้นด้วย ส่งผลทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยอาศัยกระบวนการทำงานของลูกค้า เพื่อแนะนำไปยังลูกค้าคนอื่น ๆ โดยที่คุณไม่ต้องเสียเงินลงทุนในการโฆษณาเพิ่มเลย
4.สร้าง Content ในรูปแบบที่หลากหลาย
Content นั้นไม่ได้มีเพียงแค่ตัวอักษร หรือข้อความเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีรูปแบบอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น Content แบบเสียง Content ที่เป็นภาพโดยมีตัวหนังสือประกอบ หรือวิดีโอเคลื่อนไหวที่ปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สำหรับการโพสแบบวิดีโอที่ดี และมีประสิทธิภาพบนแพลตฟอร์มของ Facebook ในปัจจุบันแบรนด์ใหญ่ ๆ ระดับโลกหลายแบรนด์ เลือกที่จะโพสวิดีโอด้วยความถี่คิดเป็นค่าเฉลี่ย 6 วิดีโอต่อสัปดาห์ จึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
อย่างไรก็ตาม การสร้าง Content นั้นก็ต้องมีความเหมาะสมกับแบรนด์ของคุณด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากแบรนด์ของคุณเกี่ยวกับเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ Content ที่เหมาะสมก็ควรจะเป็นรูปภาพที่มีความคมชัด และแสดงให้เห็นสินค้าในมุมมองที่แตกต่างกันออกไป ทำให้สินค้าดูน่าสนใจมากขึ้น ที่สำคัญอย่าลืมใส่ข้อความบอกรายละเอียดการใช้งานที่ชัดเจนด้วย
การทำการตลาดออนไลน์ด้วย Platform อย่าง Facebook ซึ่งเราได้เน้นย้ำอยู่เสมอว่าการศึกษา และวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เพื่อทำให้รู้ความเคลื่อนไหวของลูกค้า เท่านั้นยังไม่พอ นอกจากรู้ความเคลื่อนไหวของลูกค้าแล้วคุณยังจำเป็นต้องรู้ความเคลื่อนไหวของคู่แข่งด้วย เพื่อนำมาวางแผนกลยุทธ์ในการทำการตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคนั้น แน่นอนว่าผู้บริโภคหรือจำนวนผู้ใช้งานบน Facebook ไม่ได้มีเพียงแค่หลักร้อย แต่มีหลาย ๆ ล้านคน ดังนั้น หากจะใช้คนมานั่งวิเคราะห์อาจล่าช้าเกินไป และทำให้วิ่งตามคู่แข่งไม่ทัน
โดยเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคในเชิงลึก พร้อมรู้ความเคลื่อนไหวของคู่แข่งได้ ขอแนะนำ Mandala Analytics ที่เป็น Business intelligence หรือ BI ถูกออกแบบมาเพื่อรวบรวมข้อมูลใน Big Data บนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะ Social Media ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่ Platform ของ Facebook เพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถวิเคราะห์บนแพลตฟอร์มที่หลากหลายเช่น Instagram Twitter YouTube รวมถึงเว็บ forum ชื่อดังอย่าง Pantip เป็นต้น โดยมีระบบ AI ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างแม่นยำ เพื่อให้คุณได้นำข้อมูลเหล่านี้มาวางแผนกลยุทธ์ในการทำธุรกิจออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Mandala Team
Creator
Category
Share this post
Search the blog
Mandala Newsletter
Sign-up to receive the latest insights in to online trends
Sign Up