Social Listening tools ตัวช่วยผลิต Content ให้ปังใน Twitter

ในการทำการตลาดออนไลน์ในยุคนี้ เราต้องอาศัยเครื่องมือหลาย ๆ ตัว เพื่อเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล ทั้งข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภค ข้อมูลความเคลื่อนไหวของคู่แข่ง ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นสามารถนำมาต่อยอดในการสร้าง Content ให้ปังได้ โดยเฉพาะ Content ใน Twitter แพลตฟอร์มทรงอิทธิพลอย่างมากสำหรับวัยรุ่น หรือกลุ่มคนทั่วไป บน Twitter พวกเขาสามารถใช้แสดงความคิดเห็น ทวิตข้อความ รีทวิต ติดตามบุคลคนที่สนใจ คอมเม้น สร้างกระแสติดแฮชแท็ก หรือกดถูกใจ คล้ายกับแพลตฟอร์มอย่าง Facebook  แต่ Twitter จะให้อิสระเสรีทางความคิดมากกว่า และไม่ต้องกังวลว่าคุณครูหรือผู้ปกครองจะตามมาสอดส่องดูความเคลื่อนไหว 

ในแง่มุมของธุรกิจเองก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการทำการตลาดโดยใช้ช่องทางของ  Twitter นั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก และตัวช่วยในการสื่อสารที่ดีมีประสิทธิภาพ คือ Content ที่มีคุณภาพนั่นเอง หลายคนอาจสงสัยว่าจะสร้าง Content ที่มีคุณภาพได้อย่างไร นั่นจึงเป็นเหตุผลให้   Social Listening Tools เขามามีบทความสำคัญ 

Social Listening Tools คือ เครื่องมือที่ใช้ในการดักฟังเสียงของสังคมบนโลกออนไลน์ ผ่านการ Set Keyword and Monitoring เพื่อดูความเคลื่อนไหวของผู้บริโภคว่าพวกเขามีการกล่าวถึงแบรนด์ของธุรกิจอย่างไร เช่น การคอมเม้นต์ การโพส ทวิตข้อความ หรือการแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ 

นอกจาก Social Listening tools จะช่วยให้รู้ถึงความเคลื่อนไหวของผู้บริโภคแล้ว ยังช่วยให้รู้ถึงความเคลื่อนไหวของคู่แข่งอีกด้วย ซึ่งข้อมูลที่ได้เหล่านั้น เราสามารถนำมาวางแผนกลยุทธ์ในการทำธุรกิจได้อย่างเหมาะสม หรือนำมาสร้าง Content ที่ได้อย่างมีคุณภาพ 

ประโยชน์จากการใช้ Social Listening Tools ช่วยสร้าง Content บน Twitter 

1.ช่วยสร้าง Content ที่อยู่ในกระแส  

หากธุรกิจไม่รู้ว่าต้องสร้าง Content อย่างไรให้ปัง Social Listening tools สามารถช่วยได้ ด้วยระบบการทำงานของ AI ที่ช่วยในการค้นหาข้อมูล Big Bata แบบเรียลไทม์ รวดเร็ว และแม่นยำ ทำให้รู้ความเคลื่อนไหวของกระแสสังคมว่าตอนนี้   เทรนด์ไหนกำลังมาแรง ผู้คนกำลังให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องอะไร โดยธุรกิจสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาสร้างเป็น Content ที่อยู่ในกระแส เพื่อดึงดูดความสนใจ และอาจจะแอบแฝงการ Tie-in สินค้าลงไปในตอนท้ายของ Content เพื่อกระตุ้นยอดขายหรือการรับรู้แบรนด์ 

2.ช่วยสร้าง Content ให้ตรงใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย 

หากธุรกิจต้องการรู้ว่ากลุ่มค้าเป้าหมายคือใคร สามารถใช้เครื่องมือ Social Listening tools เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แท้จริงได้ ซึ่งไม่ใช่ข้อมูลลูกค้าในขั้นพื้นฐานแต่เป็นข้อมูลเชิงลึก เช่น เพศ อายุ การศึกษา ตำแหน่งงาน ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มีทัศนคติกับแบรนด์อย่างไร เป็นต้น  เมื่อทราบข้อมูลกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แท้จริงแล้ว สามารถนำสิ่งที่พวกเขาสนใจมาสร้างเป็น Content เพื่อดึงดูดความสนใจได้ 

3.ช่วยให้การใช้คำตรงใจกลุ่มลูกค้า 

การกำหนด Keyword เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับการสร้าง Content ใน Twitter   โดย Keyword นั้นจะต้องเป็นคำหรือวลีที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ เช่น เมื่อคุณให้เครื่องมือ Social Listening Tools ในการวิเคราะห์จนได้ข้อมูลที่เป็น Keyword ออกมา โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่อาจมีการพูดคุยถึงแบรนด์ของคุณ พวกเขาต้องการให้คุณจัดโปรโมชั่นลดราคาอีกครั้ง คุณสามารถนำ Keyword ลดราคามาสร้างเป็น Content หรือจัดแคมเปญ ลด แลก แจก แถม เพื่อกระตุ้นยอดขายจะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีโอกาสได้กำไรสมใจปรารถนา นอกจากการนำ  Keyword มาเป็นองค์ประกอบใน Content แล้วยังสามารถนำมาติดแฮชแท็ก เพื่อให้ลูกค้าค้นหาเจอได้ง่ายขึ้น 

4.ช่วยหาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลง Content 

Content ที่ปล่อยออกไปนั้นจะได้ผลลัพธ์ที่ดีหรือไม่ ช่วงเวลาในการโพสเป็นตัวแปรที่สำคัญ โดย Social Listening Tools ช่วยในการวิเคราะห์หาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทวิตข้อความ และบ่งบอกเป็นนัยสำคัญว่าหากโพสในช่วงเวลาดังกล่าวโอกาสที่ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายจะเห็นได้มากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะ Content ที่ต้องการ Engagement จำเป็นอย่างมากที่ต้องโพสในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุด 

5.ช่วยหาช่องทางที่เหมาะสมในการลง Content 

เครื่องมือ Social Listening Tools ไม่ได้ใช้เฉพาะแพลตฟอร์มของ Twitter เท่านั้น แต่สามารถใช้ได้หลายแพลตฟอร์มขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ อย่างเช่น Mandala Analytics ผู้ให้บริการ Social Listening Tools ผ่านระบบที่มีเสถียรภาพสูง ด้วยการทำงานของ AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว ใช้วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค ดูความเคลื่อนไหวของคู่แข่งได้หลายแพลตฟอร์ม เช่น Facebook , Instagram ,YouTube รวมถึง Web Forum อย่าง Pantip เป็นต้น จุดเด่นของเครื่องมือ Social Listening Tools นอกจากจะช่วยสร้าง Content ที่มีคุณภาพแล้ว ยังสามารถวิเคราะห์ได้ว่าควรจะลง Content ในช่องทางไหน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์สูงสุดเพราะไม่ว่า Content ของคุณจะดี มีคุณภาพมากแค่ไหน แต่หากนำไปวางไว้ผิดที่ผิดทาง ก็ไร้ประโยชน์ 

ทั้งหมดนี้คือ ความสำคัญของ Social Listening Tools ที่นำมาใช้ในการช่วยสร้าง Content ให้ปังได้ในช่องทางของ Twitter ซึ่งไม่ได้ใช้ประโยชน์ได้แค่ในแพลตฟอร์มของ  Twitter เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้วิเคราะห์ข้อมูลได้หลายแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะในสังคมโซเชียลมีเดียที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ ในปัจจุบันการโฆษณาแบบขายตรง อาจใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป เนื่องจากผู้บริโภคมักจะเกิดพฤติกรรมต่อต้านการขายตรง หากธุรกิจมุ่งเน้นแต่การขายมากเกินไป ผู้บริโภคอาจมองเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ จึงไม่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้ ดังนั้น Social Listening Tools จึงเข้ามามีบทบาท ที่สามารถช่วยวิเคราะห์ความต้องการที่แท้จริง หากลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และช่วยให้ธุรกิจนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้สร้างสรรค์ Content ได้อย่างเหมาะสม เพราะ Content ที่ดี Content ที่ปัง จะต้องเป็น Content ที่อยู่ในกระแส สามารถดึงดูดความสนใจ หรือตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด