เมื่อพูดถึงการตลาดออนไลน์แพลตฟอร์มที่น่าสนใจไม่แพ้ Facebook , YouTube และ Instagram ก็คือ Twitter เนื่องจาก Twitter คือศูนย์รวมของวัยรุ่นทั่วไป แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้กลุ่มวัยรุ่นสามารถแสดงออกทางความคิดได้อย่างเต็มที่ โดยไม่มีผู้ครองหรือคุณครูคอยสอดส่อง รวมไปถึงใช้ติดตามหรือกด Follow บุคคลที่สนใจ เช่น คนดัง ราดา ทีมฟุตบอล ธุรกิจหรือองค์กร เป็นต้น ตลอดจนการติด Hashtag เพื่อตามกระแส หรือทำให้เกิดกระแสใหม่ขึ้นมา
ในมุมมองของธุรกิจแล้วการมียอด Follower เยอะบน Twitter เป็นเครื่องมือที่การันตีได้ว่าธุรกิจมีโอกาสประสบความสำเร็จและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากกว่า เวลาจะกระจายข่าวสาร ขายสินค้า หรือนำเสนอโปรโมชั่นส่วนลดต่างๆ มีโอกาสที่ยอดขายจะปังได้ในเวลาอันเร็ว แต่ปัญหาใหญ่ของการทำการตลาดบน Twitter คือ ทำอย่างไรให้ยอด Follower พุ่ง และในวันนี้เราจะมาพูดถึงเครื่องมือ Social Listening Tools ที่จะช่วยให้ธุรกิจทำการตลาดได้ง่ายขึ้น
Social Listening Tools คืออะไร
Social Listening Tools เครื่องมือที่ใช้ดักฟังเสียงของคนในสังคมบนโลกออนไลน์ เสียงในที่นี้อาจเป็นการพูดคุย การคอมเมนต์ การติดแฮชแท็ก หรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ผ่านการ Set keyword และ Monitoring เพื่อดูความเคลื่อนไหวต่างทั้งในฝั่งของผู้บริโภคและคู่แข่ง เพื่อให้ธุรกิจสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาวางแผนกลยุทธ์ให้เหมาะสม หรือตอบโต้อย่างทันท่วงที Social Listening Tools เป็นเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยาก จากการวิเคราะห์ Big data โดยใช้ AI (Artificial Intelligence) เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในการทำงานแทนมนุษย์ ซึ่งจะมีความสามารถในการวิเคราะห์ที่รวดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำมากกว่า
เสียงของผู้บริโภคที่ได้จากการวิเคราะห์ผ่านเครื่องมือ Social Listening Tools นั้น เป็นข้อมูลเชิงลึกและสำคัญมาก หรือเรียกว่า Data Insight ซึ่งธุรกิจสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ได้มากมายอย่างไม่รู้จับ ยกตัวอย่างเช่น
- สร้าง Content ให้ดูน่าสนใจหรืออยู่ในกระแสความต้องการของผู้บริโภค
- ติดตามความเคลื่อนไหวของ Content เพื่อดู Feedback
- สร้างไอเดียสำหรับแคมเปญใหม่ๆ ทางการตลาด
- รู้ทันคู่แข่ง เพื่อวางแผนกลยุทธ์ตอบโต้
- จัดส่วนลด หรือโปรโมชั่นที่ดูน่าสนใจ
- นำมาพัฒนาหรือปรับปรุง Customer Journey
Social Listening Tools ช่วยสร้างยอด Follower บน Twitter ได้อย่างไร
1.ใช้ดูความเคลื่อนไหวของผู้บริโภค
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า เครื่องมือ Social Listening Tools มีวิธีการทำงานผ่านการ Set Keyword และ Monitoring เพื่อดูความเคลื่อนไหนของผู้บริโภคว่าพวกเขาเหล่านั้นรู้สึกอย่างไรต่อแบรนด์ของคุณ เช่น Set Keyword ชื่อสินค้าหรือใช้คำที่เกี่ยวข้องกับสินค้า จากนั้น AI จะทำการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ของคุณ เพียงเท่านั้นคุณก็จะได้ทราบว่าผู้บริโภครู้สึกอย่างไร พวกเขามีทัศนคติบวกหรือลบต่อแบรนด์ของคุณ เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับปรุงและพัฒนาให้สินค้าและบริการสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด เมื่อสินค้ามีคุณภาพผู้บริโภคจะให้ความสนใจ ซึ่งอาจตามมาด้วยยอด Follower ที่สูงขึ้น
2.ใช้ดูความเคลื่อนไหวของคู่แข่ง
หากคุณพบว่ายอด Follower ของคู่แข่งมีมากกว่า นั่นหมายความว่าคู่แข่งอาจมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดีกว่า ซึ่งถ้าหากคุณต้องการรู้ความเคลื่อนไหวของคู่แข่งก็เพียง Set Keyword ชื่อสินค้าของคู่แข่งหรือคำที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ของคู่แข่งลงไป เพียงเท่านั้น AI ก็จะทำการรวบรวมข้อมูลและประมาลผลออกมาให้ทราบว่าตอนนี้ผู้บริโภครู้สึกอย่างไรต่อแบรนด์คู่แข่ง หรือคู่แข่งมีแผนกำลังทำอะไรอยู่ โดยสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาวางแผนกลยุทธ์เพื่อตอบโต้ หรือนำมาปรับปรุงให้สินค้าดีกว่าคู่แข่งนั่นเอง เหมือนคำที่ว่า “รู้เขา รู้เร่า รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”
3.สร้าง Content ที่เหมาะสม
Content คือ อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ ซึ่ง Content ที่ดีจะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้ ซึ่งข้อมูลที่ได้จาก Social Listening Tools จะช่วยสร้าง Content ที่ดีและมีคุณภาพ สามารถเพิ่มจำนวน Follower ให้กับธุรกิจของคุณได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับการสร้าง Content บนแพลตฟอร์มของ Twitter อย่าลืมใช้ประโยชน์จากการติดแฮชแท็ก เพื่อทำให้ผู้บริโภคค้นหาเจอได้ง่ายและสร้างโอกาสในการเข้าถึงหรือกระตุ้นการรับรู้แบรนด์ที่ดี ไปจนถึงช่วยสร้างยอดขายได้มากกว่าเดิม
4.เพิ่ม Follower ด้วยการมีส่วนร่วม
นอกจากใช้เครื่องมือ Social Listening Tools เพื่อสอดส่องดูความเคลื่อนไหวของผู้บริโภคแล้ว ยังสามารถสร้างการมีส่วนร่วมได้ เช่น เมื่อผู้บริโภคกลุ่มหนึ่งมีการพูดถึงแบรนด์ของคุณ โดยพวกเขาอาจจะพูดคุยกันผ่านทางคอมเม้นต์ หรือโพสที่เกี่ยวข้อ AI จะค้นหาการสนทนาเหล่านั้นและแจ้งให้คุณทราบ โดยคุณสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการสนทนาหรือตอบข้อสงสัยของผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคเกิดความประทับใจ หรือมีทัศน์คติที่ดีต่อแบรนด์ อาจส่งผลให้ยอด Follower เพิ่มสูงขึ้น นอกจากจะใช้ Social Listening Tools สร้างการมีส่วนร่วมแล้วยังสามารถใช้ติดตาม Content เพื่อดู Feedback ได้อีกด้วย
5.หาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทวิต
จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกผ่าน Social Listening Tools ทำให้ธุรกิจทราบว่าช่วงเวลาไหนที่เหมาะสมในการโพส หรือผู้บริโภคในกลุ่มเป้าหมายมีการเข้าใช้งาน Twitter ในช่วงเวลาใดมากที่สุด หากทำการตลาดในช่วงนี้ ไม่ว่าจะสร้างแคมเปญ จัดโปรโมชั่น ทำ Content หรือการโฆษณาต่างๆ อาจต้องทำให้ช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้การตลาดมีประสิทธิภาพมากที่สุดและส่งผลให้ยอด Follower เพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง
ในความเป็นจริงแล้ว ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือ Social Listening Tools ได้มากมายโดยไม่มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับไอเดียหรือกลยุทธ์ในการทำงานที่แตกต่างกันออกไป สำหรับผู้ให้บริการเครื่องมือนี้ ยกตัวอย่างเช่น Mandala Analytics ที่ไม่เพียงแต่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลได้ใน Twitter เท่านั้นแต่ยังสามารถใช้วิเคราะห์แพลตฟอร์มได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Facebook , Instagram , YouTube รวมถึง Web Forum อย่าง Pantip ด้วยระบบการทำงานของโปรแกรมที่มีเสถียรภาพ และมี AI ที่ทำงานได้อย่างแม่นยำ ถูกออกแบบมาเพื่อลดต้นทุนในการทำการตลาดออนไลน์ และช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนกลยุทธ์ที่เหมาะสม
Mandala Team
Creator
Category
Share this post
Search the blog
Mandala Newsletter
Sign-up to receive the latest insights in to online trends
Sign Up