เทคนิคเอาชนะคู่แข่งใน Facebook ด้วย Social Listening Tools

หากพูดถึงการทำการตลาดบน Facebook ในยุคนี้ คงไม่ต้องบอกว่ามีการแข่งขันกันดุเดือดมากแค่ไหน เนื่องจาก Facebook เป็นโซเชียลมีเดียที่ทรงอิทธิพลอย่างมาก ที่ค่อนข้างมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค และเป็นหนึ่งช่องทางในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ผ่าน Content หรือจัดแคมเปญ เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กร และช่วยกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มสูงขึ้น

แต่อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าในปัจจุบัน มีธุรกิจมากมายที่แข่งขันแย่งชิงลูกค้าโดยใช้ช่องทาง Facebook เป็นตัวกลาง ซึ่งในแต่ละธุรกิจ ก็ย่อมมีกลยุทธ์ที่แตกต่างกันออกไป และไม่ว่าจะใช้กลยุทธ์ไหน การเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคที่แท้จริง และได้รู้ความเคลื่อนไหวของคู่แข่ง คือสิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ ซึ่งเครื่องมือที่สามารถช่วยได้คือ Social Listening Tools นั่นเอง

ทำความรู้จักกับ Social Listening Tools 

Social Listening Tools คือ เครื่องมือที่ใช้ในการดักฟัง หรือรับฟังเสียงของผู้บริโภคที่อยู่ในโลกออนไลน์ หรือโลกโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ผ่านการ Monitor เพื่อดูความเคลื่อนไหว โดยเสียงของผู้บริโภคที่ได้มานั้นเป็นข้อมูลเชิงลึก และสำคัญมาก ข้อมูลเหล่านี้ ธุรกิจสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย หรือใช้วางแผนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างการใช้ประโยชน์ เช่น 

- นำมาสร้าง Content ที่น่าสนใจหรืออยู่ในกระแส 

- นำความรู้สึกที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์มาปรับปรุง หรือพัฒนาสินค้า 

- สร้างไอเดียสำหรับจัดแคมเปญทางการตลาด 

- รู้ทันคู่แข่ง และวางแผนกลยุทธ์ตอบโต้แบบทันท่วงที 

การใช้ Social Listening Tools นี้มีขั้นตอนการทำงานอย่างไร 

สำหรับขั้นตอนการทำงานของ Social Listening Tools คือการ Set keyword ชื่อสินค้าหรือคำที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ลงไป จากนั้น AI จะทำการรวบรวมข้อมูลเมื่อลูกค้ามีการพูดถึงแบรนด์นั้น ๆ พร้อมวิเคราะห์และสรุปผลออกมาเป็น Report ให้ธุรกิจสามารถนำไปวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดต่อไป และถ้าหากธุรกิจต้องการรู้ความเคลื่อนไหวของคู่แข่ง ก็เพียงแค่ Set keyword ชื่อสินค้าของคู่แข่งลงไป โดยสามารถนำข้อมูลมาเปรียบเทียบกันเพื่อดูว่าระหว่างแบรนด์ของเรา และแบรนด์ของคู่แข่ง ลูกค้าประทับใจสินค้าแบรนด์ไหนมากกว่ากัน นอกจากนั้นยังช่วยทำให้รู้ความเคลื่อนไหวของคู่แข่งอีกด้วยว่า ณ ช่วงเวลานี้ คู่แข่งกำลังทำอะไร เมื่อรู้ความเคลื่อนไหวของคู่แข่ง ธุรกิจสามารถนำมาสร้างกลยุทธ์ตอบโต้ได้แบบทันท่วงที 

หากพูดถึงประโยชน์ของเครื่องมือนี้ ในความเป็นจริงแล้วธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จาก Social Listening Tools ได้อย่างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับไอเดีย หรือกลยุทธ์ที่เหมาะสม ลองคิดเล่นๆ ดูว่าหากธุรกิจสามารถ Focus Group ได้อย่างแม่นยำ จะส่งผลดีต่อธุรกิจมากแค่ไหน ที่แน่ ๆ ก็คือ ช่วยประหยัดต้นทุนในการทำการตลาด แทนที่จะโฆษณาออกไปในวงกว้างให้สิ้นเปลืองงบประมาณ แต่เน้นโฆษณาให้ตรงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะช่วยให้ธุรกิจมีโอกาสปิดการขายได้มากกว่า แถมยังประหยัดเงินค่าโฆษณามากกว่าอีกด้วย 

ทำไมต้องชนะคู่แข่งด้วย Social Listening Tools 

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในตอนต้นว่ามีธุรกิจจำนวนมากที่ใช้ช่องทาง Facebook ทำการตลาด ซึ่งไม่ว่าคุณจะขายสินค้าหรือบริการใดก็ตาม แน่นอนว่าไม่ได้มีธุรกิจของคุณเพียงแค่เจ้าเดียว ยังมีคู่แข่งอีกจำนวนมาก ที่รอแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดนี้อยู่ แต่ปัญหาคือ คุณไม่สามารถรู้ได้ว่าเลยว่าคู่แข่งของคุณมีใครบ้าง อาจจะพอรู้บ้างแต่ไม่ใช่ทั้งหมด รวมถึงไม่รู้ว่าคู่แข่งกำลังทำอะไรอยู่ พวกเขามีกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างไร บางครั้งกลยุทธ์ของพวกเขาอาจน่าสนใจมากกว่ากลยุทธ์ของคุณ แต่เครื่องมือ Social Listening Tools สามารถช่วยให้คุณได้รู้ความเคลื่อนไหวของคู่แข่งได้ ด้วยการ Set Keyword ชื่อแบรนด์ของคู่แข่งลงไป AI จะทำหน้าที่ในการรวบรวม วิเคราะห์ และสรุปผล บอกให้คุณทราบว่าคู่แข่งกำลังทำอะไร ตลอดจนผู้บริโภค มีทัศนคติย่างไรต่อแบรนด์ของคู่ โดยคุณสามารถนำข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ มาปรับปรุงสินค้า หรือพัฒนาสินค้าให้ดีกว่าสินค้าของคู่แข่งนั่นเอง

Social Listening Tools ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณเอาชนะคู่แข่ง แต่สามารถทำให้คุณชนะใจผู้บริโภคได้ด้วย ซึ่ง Feedback ที่คุณได้รับ คุณสามารถนำเอามาปรับปรุงสินค้า รวมถึงการให้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค สร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า หรือทำให้ลูกค้ามีทัศนติที่ดีต่อแบรนด์ของคุณ และคุณสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ด้วยอีกหนึ่งวิธี คือ การสร้างสรรค์ Content ที่ดี มีคุณภาพ โดยอาศัยเครื่องมือ Social Listening Tools เข้ามาช่วยทำให้ Content ของคุณดูโดดเด่นมากกว่า Content ของคู่แข่ง เช่น การเล่นกับ Keyword ที่อยู่ในกระแส การติดแฮชแท็กในเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น ไปจนถึงสร้าง Content ที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายต้องการ เป็นต้น ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือ Social Listening Tools ธุรกิจสามารถนำมาสร้างเนื้อหาได้มากมายตามความเหมาะสม 

ตัวอย่าง Social Listening Tools อย่าง Mandala Analytics ซึ่งเป็น Business Intelligence หรือ BI ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลใน Big data จากโลกออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook , Instagram , Twitter , YouTube และ Web Forum ชื่อดังอย่าง Pantip เป็นต้น Mandala Analytics ช่วยให้คุณได้รับข้อมูลอย่างถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว สร้างความคุ้มค่าในการลงทุน รู้ทันผู้บริโภค วางแผนกลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนรู้ความเคลื่อนไหวของคู่แข่งทุกช่วงเวลา สนับสนุนให้ธุรกิจของคุณสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ตามความต้องการส่งเสริม Content ที่มีคุณภาพ เหมาะสำหรับนักการตลาด ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ ทีมงานดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ทีมงานดิจิทัลคอนเทนต์ และผู้บริหารหรือผู้ประกอบการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง