แม่ค้าเสื้อผ้าออนไลน์ห้ามพลาด! ทำโปรไฟล์และคอนเทนต์อย่างไรให้ลูกค้าสนใจ

เครื่องแต่งกายถือเป็นปัจจัย 4 ที่ทุกคนต้องใส่กันทุกวัน ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าตลาดเครื่องแต่งกายจะมีมูลค่าสูงถึง 3,168 ล้านบาทจากการคาดการณ์ในปี 2020 และพบว่าคนไทยกว่า 58% จาก 1,000 คนซื้อเสื้อผ้าใหม่กันอย่างต่ำเดือนละหนึ่งครั้ง เลยส่งผลให้การแข่งขันของธุรกิจร้าน และแบรนด์เสื้อผ้าในไทยต้องสูงไปตามไปด้วย

(ที่มา: https://positioningmag.com/58914)

สำหรับบทความในวันนี้จะนำเอาข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากเครื่องมือ Mandala Analytics มาหาดูว่าร้านที่ทำการตลาดเสื้อผ้าออนไลน์แล้วประสบความสำเร็จหรือมีคนเข้ามาให้ความสนใจอยากสั่งซื้อ แบรนด์เหล่านั้นเขามีเทคนิคทางการตลาดออนไลน์อย่างไรบ้าง เพื่อเป็นเคสตัวอย่างให้แบรนด์เสื้อผ้าออนไลน์ได้ลองเอาเทคนิคต่าง ๆ นี้ไปปรับใช้กับแบรนด์ของตัวเองให้สามารถประสบความสำเร็จเพิ่มมากขึ้นได้ค่ะ

แนะนำให้รู้จักกับ Mandala Analytics 

หน้า Dashboard ของ Mandala Analytics

Mandala Analytics คือเครื่องมือ Social Listening Tool ที่ช่วยเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ สำหรับการใช้งาน Mandala Analytics เพื่อเก็บข้อมูลหาไอเดียทำการตลาดร้านเสื้อผ้าจะเริ่มต้นมาจากการใส่คำค้นหา และระยะเวลาที่ต้องการเก็บข้อมูล

ในกรณีนี้ที่จะใช้ดูแบรนด์ต่าง ๆ ที่ขายชุดเดรสเลยใช้คำค้นหาว่า “เดรส” และระบุระยะเวลาเก็บข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2020 - 30 ก.ย. 2021  

หลังจากที่เครื่องมือ Social Listening Tool ทำการประมวลผลข้อมูลมาให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว แบรนด์ก็สามารถใช้ศึกษาข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์ได้ทันทีในตัวอย่างหัวข้อดังต่อไปนี้ค่ะ:

• สร้างโปรไฟล์แบรนด์ให้น่าสนใจ
  
  
• ทำคอนเทนต์ให้คนเข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์
  
  
• ติดแฮชแท็กให้คนเจอร้านมากขึ้น

1. สร้างโปรไฟล์แบรนด์ให้น่าสนใจ

เริ่มต้นจากการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ที่น่าสนใจด้วยฟังก์ชัน Channel Summary ของ Mandala Analytics ที่จะทำให้แบรนด์ได้รู้ว่าในช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น Instagram ว่าบัญชีของร้านเสื้อผ้าร้านไหนที่ขายชุดเดรสแล้วมีคนเข้ามาสนใจสูงด้วยยอดการมีส่วนร่วมจากจำนวนไลก์ และคอมเมนต์มากที่สุด 

ขอยกมาให้ดูเป็นตัวอย่าง 2 ร้านใน Instagram ด้วยกัน:

1. ร้าน A

ที่มา: https://www.instagram.com/love_shirt_/

2. ร้าน B

ที่มา: https://www.instagram.com/ddudustudio/

สรุปเทคนิคทำโปรไฟล์ให้น่าสนใจจากตัวอย่าง:

• ตั้งบัญชี Business Account: ตั้งบัญชี Instagram ของร้านให้เป็นประเภท Business ที่ระบุถึงประเภทของธุรกิจ เช่น Apparel & Clothing หรือ Clothing (Brand) คนเห็นจะได้เข้าใจว่าร้านขายอะไร และบัญชีแบบ Business ก็ทำให้ร้านสามารถดูข้อมูลเชิงลึกที่เกิดขึ้นได้ เช่น จำนวนคนที่เห็นโพสต์หรือจำนวนคนที่เซฟรูป
  
  
• ใช้ Headline ดึงดูดสายตา: ตัวอย่างเช่น “เสื้อผ้าแฟชั่น ราคาไม่เกิน 290 บาท” คนจะเข้าใจสินค้าที่ขายว่าเป็นของแฟชั่นทันที และถูกดึงดูดด้วยราคาที่ย่อมเยา ทำให้อยากเลื่อนลงไปดูรูปสินค้าต่อ
  
  
• ใส่รายละเอียดที่ควรรู้: ถ้าเป็นร้านพรีออเดอร์ต้องบอกให้ชัดเจนว่าสั่งได้ถึงวันไหน รอพรีออเดอร์ของกี่วัน หรือตอนนี้มีสินค้าไหนที่พร้อมส่ง, ช่องทางการส่ง, รอรับของกี่วัน และโอนเงินได้ทางไหนบ้าง เป็นต้น
  
  
• ช่องทางติดต่อสั่งซื้อ: ไว้ให้ลูกค้าติดต่อเมื่อมีข้อสงสัย หรือกดสั่งซื้อได้เลยจากร้านค้าออนไลน์ เช่น LINE MyShop, Shopee หรือ Facebook Messenger เป็นต้น
  
  
• สร้างไฮไลต์ ปักหมุดสิ่งที่ลูกค้าควรรู้: ไม่ว่าจะเป็นการเทียบไซต์เสื้อผ้า, รวมสินค้าที่ขาย และรีวิวที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือของร้านมากขึ้น เพราะกว่า 81% ของผู้บริโภคเชื่อคำแนะนำที่มาจากเพื่อน หรือครอบครัวมากกว่าธุรกิจรีวิวด้วยตัวเอง แล้วสุดท้ายเมื่อจะตัดสินใจซื้อจริง คนก็จะได้รับอิทธิพลอีกรอบจากการพูดคุยกับเพื่อน, ครอบครัว, รีวิว และผู้เชี่ยวชาญ

2. ทำคอนเทนต์ให้คนเข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์

หลังจากได้ดูตัวอย่างของทั้ง 2 ร้านแล้ว ทีนี้มาดูกันต่อว่าคอนเทนต์โปรโมทที่ทำให้เสื้อผ้าของร้านมีคนเข้ามาสนใจเป็นอย่างไรบ้างค่ะ

1. ร้าน A

ภาพสินค้าร้าน A ที่มา: https://www.instagram.com/love_shirt_/

ภาพชุดที่มีคนกดไลก์และคอมเมนต์สูงสุด ที่มา: https://www.instagram.com/p/CUaI1dTvPRs/

2. ร้าน B

ภาพสินค้าร้าน B ที่มา: https://www.instagram.com/ddudustudio/

 ภาพชุดที่มีคนกดไลก์และคอมเมนต์สูงสุด ที่มา: https://www.instagram.com/p/CUKXhiGhXvo/

สรุปเทคนิคทำคอนเทนต์ขายเสื้อผ้าให้คนเข้ามามีส่วนร่วม:

• ถ่ายรูปชุดให้เห็นชัดทั้งตัว: รูปที่ถ่ายต้องมีความชัดเจนที่ลูกค้าสามารถเห็นชุดได้หมดทั้งตัว ลูกค้าจะได้จินตนาการได้ว่าถ้าใส่แล้วจะออกมาเป็นแบบไหน ทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อมากกว่ารูปที่มองรายละเอียดสินค้าไม่ชัดเจน
  
  
• ใส่ราคาในรูปเพิ่มโอกาสในการขาย: ราคาถือเป็นสิ่งที่หยุดความสนใจของลูกค้าได้ เมื่อลูกค้าเห็นว่าชุดมีราคาจับต้องได้ตามกำลังซื้อก็จะเพิ่มโอกาสให้กดเข้ามาดูสินค้าในร้านมากขึ้น
  
  
• รายละเอียดสินค้าครบถ้วน ไม่ต้องเสียเวลาถาม: ไซส์เสื้อผ้าอย่างละเอียด, สีที่มีให้เลือกทั้งหมด, ราคา, ค่าส่ง และช่องทางการสั่งซื้อต้องมีครบ แต่กระชับสั้นได้ใจความ ลูกค้าจะได้ไม่รู้สึกเสียเวลาที่ต้องเข้าไปถามรายละเอียดเพิ่มเติม และบางคนก็อาจจะไม่ชอบถามเลยตัดสินใจไม่ซื้อไปเลยก็มีเช่นกัน

3. ติดแฮชแท็กให้คนเจอร้านมากขึ้น

การติดแฮชแท็กจะทำให้คนเจอร้านมากยิ่งขึ้น เป็นการสร้างโอกาสให้ร้านเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่จะกลายมาเป็นลูกค้า เพราะบางคนเวลาที่ต้องการซื้อเสื้อผ้าตามประเภทที่ต้องการก็จะค้นหาเอาจากการกดเข้าไปในแฮชแท็ก 

Instagram Keyword & Hashtag ใน Mandala Analytics

เครื่องมือ Mandala Analytics ได้ทำการสรุปแฮชแท็กในฟังก์ชัน Keyword & Hashtag ที่คนใช้เกี่ยวกับคำค้นหาคำว่า “เดรส” ที่ใส่ไปในตอนสร้างโปรเจกต์นี้มากที่สุดมาให้แบบที่ร้านไม่ต้องสุ่มติดแฮชแท็กเองแบบไม่มีกลยุทธ์

แฮชแท็กที่ควรเลือกมาใช้:

• #ชื่อร้าน: ขาดไม่ได้ ใช้สร้างตัวตนของร้านบนโลกออนไลน์
  
  
• #เกี่ยวกับเดรส: #เดรส, #เดรสราคาถูก, #เดรสสวยๆ, #ชุดเดรสสวยๆ, #ชุดเดรส, #เดรสเกาหลี, #มินิเดรส
  
  
• #เกี่ยวกับเสื้อผ้า: #เสื้อผ้าแฟชั่น, #เสื้อผ้าแฟชั่นสวยๆ, #เสื้อผ้าราคาถูก

สรุป ทำร้านเสื้อผ้าออนไลน์อย่างไรให้ลูกค้าสนใจ

ถึงแม้ว่าแข่งขันของร้านเสื้อผ้าแบรนด์ต่าง ๆ จะดุเดือดมากแค่ไหน แต่อย่าลืมว่าในยุคนี้ที่ข้อมูลมีค่า ดังนั้นแบรนด์ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ เข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร และทำอย่างไรถึงจะดึงดูดความสนใจของลูกค้ามาจากคู่แข่งได้ก็จะยิ่งสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจกว่าคู่แข่ง อย่ารอช้าจนพลาดโอกาสสร้างยอดขาย เริ่มต้นใช้ Mandala Analytics ในการทำการตลาดให้เหนือกว่าคู่แข่งได้เลยที่ https://www.mandalasystem.com/plans

หรือสมัครทดลองใช้งานฟรีก่อน 15 วันได้ที่นี่

อย่าพลาดบทความดี ๆ ในการต่อยอดธุรกิจ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ blog/th/

เรียนรู่วิธีการทำการตลาดออนไลน์ได้ที่ https://www.mandalasystem.com/blog/th/48/digital-marketing-21082020