โซเชียลมีเดียเป็นแพลตฟอร์มสาธารณะที่มีผู้ใช้งานจำนวนหลายพันล้านคน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาหลายธุรกิจพยายามทำการตลาดกับโซเชียลมีเดียเพื่อสร้างการรับรู้ที่มีต่อแบรนด์ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน และเพื่อให้เข้าใจ insight ลูกค้า, กลุ่มเป้าหมาย และคู่แข่งอย่างแท้จริง
ก่อนจะมีโซเชียล ระบบ CRM (customer relationship management: การบริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า) เป็นตัวช่วยส่งเสริมธุรกิจด้วยข้อมูลของลูกค้าที่จำเป็นเพื่อให้ธุรกิจเข้าใจลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง
วกกลับมาที่ปัจจุบัน ความนิยมของโซเชียลมีเดียได้ควบรวมเข้ากับระบบ CRM เกิดเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจรักษาลูกค้าที่มีอยู่ และคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายในอนาคตได้สำเร็จไปพร้อมกัน
แต่ด้วยข้อมูลจำนวนมากที่หลั่งไหลเข้าสู่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเรื่องยากมากสำหรับธุรกิจที่จะติดตามลูกค้าแต่ละรายหรือติดตามความเป็นไปในอุตสาหกรรม
นี่คือเหตุผลว่าทำไม “ธุรกิจถึงควรใช้เครื่องมือ social media monitoring”
เครื่องมือ Social media monitoring ทำหน้าที่ตรวจสอบการกล่าวถึงแบรนด์จากคนบนช่องทางโซเชียล ช่วยให้ธุรกิจแยกแยะกลุ่มเป้าหมาย และลูกค้าควบคู่ไปกับการคาดการณ์ความต้องการของผู้บริโภค
เครื่องมือตัวนี้มีความฉลาดในการรวบรวมข้อมูลจำนวนมหาศาล และแบ่งกลุ่มข้อมูลตามสถานที่, อารมณ์, อุตสาหกรรม, แพลตฟอร์ม และช่วงเวลา ฯลฯ
บทความนี้จะอธิบายว่า social media monitoring มีประโยชน์กับธุรกิจอย่างไร:
- ล้ำหน้าไปก่อนใครด้วยข้อมูล
- ดูแลลูกค้าแบบตรงจุด
- เรียนรู้พฤติกรรมของผู้บริโภค
- เพิ่มยอดขายแบบเติบโตจากการรักษาฐานลูกค้า
- บทสรุป
แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียช่วยส่งเสริมการตลาดโดยการเชื่อมต่อระหว่างธุรกิจกับกลุ่มเป้าหมาย
ก่อนโซเชียลมีเดียถูกสร้างขึ้นมา ธุรกิจใช้เทคนิคการตลาดแบบเดิมๆ เพื่อโปรโมตตัวเองหรือติดตามเทรนด์ของอุตสาหกรรม แต่ในปัจจุบัน หากไม่ใช้โซเชียลมีเดียมาช่วยแบรนด์จะเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ยากมาก
เครือข่ายโซเชียลเปิดโอกาสให้ธุรกิจใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงของแพลตฟอร์มเหล่านี้เพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ ผู้ประกอบการ นักลงทุน มือใหม่จนถึงมืออาชีพ เพราะเครือข่ายนี้รองรับผู้ใช้ได้ทุกกลุ่ม
ในเมื่อโซเชียลเป็นพื้นที่ของกลุ่มคนที่หลากหลาย ความคิดที่แตกต่างกันไปเลยเกิดขึ้น ด้วยความช่วยเหลือของเครื่องมือ social media monitoring แบรนด์ยักษ์ใหญ่ ธุรกิจหรือบริษัทสามารถตรวจสอบสิ่งที่คนกำลังพูดเกี่ยวกับตัวเอง และคู่แข่งได้โดยง่าย
ตัวอย่างเช่น เมื่อรู้ว่าโซเชียลแพลตฟอร์มไหนกำลังฮิตในกลุ่มเป้าหมาย แบรนด์ก็สามารถเข้าไปใช้แพลตฟอร์มเหล่านั้นทำการตลาดกับลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
แบรนด์สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องโดยใช้คำค้นหา (keywords) เฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมของคุณ Keywords อาจเป็นชื่อแบรนด์, ชื่ออุตสาหกรรม, ชื่อแบรนด์ของคู่แข่ง หรือ keywords ของคู่แข่ง เป็นต้น
การค้นพบข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรมช่วยให้แบรนด์เห็นโอกาสในการทำการตลาด เช่น ติดตามความพร้อมของตัวเอง และการเคลื่อนไหวคู่แข่งกับเทรนด์ที่กำลังมาแรง รวมถึงการตลาดในรูปแบบใหม่ๆ ในยุคเทคโนโลยีแบบนี้
ด้วยการค้นหาแพลตฟอร์มยอดนิยม เทรนด์หรือการพูดถึงในอุตสาหกรรม และการเคลื่อนไหวของคู่แข่ง เครื่องมือ social media monitoring ทำให้ธุรกิจมีความสามารถในการปรับตัวแบบยืดหยุ่น และตอบสนองลูกค้าได้โดยง่าย
แต่ต้องระวังว่าบางครั้งข้อมูลที่รวบรวมโดยบริษัทต่างๆ ก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องมากเท่าไหร่
จากบทความที่ตีพิมพ์โดย TechCrunch ระบุว่า data scientists ในบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญจะใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่จำเป็นได้อย่างไร
“ปัจจุบันบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญจะรวบรวมข้อมูลจำนวนไม่มากแบบมหาศาลแต่เอาเฉพาะที่จำเป็นสำหรับการให้บริการ เพื่อไม่ให้เกิดการละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภค”
มันหมดยุคแล้วที่แบรนด์ต่างๆ ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อการโฆษณา และคัดเลือกลูกค้าเป้าหมายเท่านั้น ในปัจจุบันโซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่ทรงพลังที่สุดในการใช้เชื่อมต่อกับลูกค้าของแบรนด์ เพราะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โซเชียลมีเดียได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการใช้บริการลูกค้า
ด้วยกลุ่มคนจำนวนมากที่มีอยู่ในโซเชียลมีเดีย แบรนด์สามารถติดตามความรู้สึกของผู้บริโภคที่มีต่ออุตสาหกรรมหรือแบรนด์ นอกเหนือเรื่องนี้แล้ว social media monitoring ยังช่วยให้แบรนด์ค้นพบความไม่พอใจหรือข้อร้องเรียนของลูกค้าได้ การตอบกลับลูกค้าแบบตัวต่อตัวบ่งบอกว่าแบรนด์ใส่ใจลูกค้ามากแค่ไหน
นอกจากให้คำตอบอย่างรวดเร็วแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจคำพูดยอดฮิตที่ว่า – “ลูกค้าถูกเสมอ”
หรืออย่างน้อยถ้าลูกเข้าใจผิดก็ควรต้องอธิบายด้วยความจริงใจ และชัดเจน
ความประทับใจของลูกค้าจะเปลี่ยนไปเลยถ้าแบรนด์เลือกปกป้อง พูดดีเข้าตัวเองแทนที่จะเสนอวิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องให้กับลูกค้า
การตอบลูกค้าแบบตรงประเด็น และเป็นมิตรไม่เพียงสร้างความประทับใจระหว่างลูกค้าต่อแบรนด์เท่านั้น แต่ยังส่งไปถึงลูกค้าในอนาคตที่เข้ามาเห็นด้วย
Snapshot from Twitter
ตัวจากรูปภาพด้านบนอธิบายว่า Amazon Web Services (AWS) ให้การแก้ปัญหาที่กระชับ และรวดเร็วให้กับลูกค้าได้อย่างไร ซึ่งผลลัพธ์ก็คือ – ลูกค้าพึงพอใจ
การตอบสนองในเชิงบวกไม่เพียงแต่ช่วยสร้างความประทับใจ แต่ยังช่วยเปลี่ยนลูกค้าให้กลายเป็นผู้สนับสนุนแบรนด์อีกด้วย (อย่างน้อยก็พูดถึงแบรนด์ในด้านดีให้คนอื่นฟัง)
การติดตามข้อความที่พูดถึงแบรนด์จะเป็นเรื่องยากมากถ้าแบรนด์ของคุณมีลูกค้าจำนวนมาก แล้วบริษัทขนาดใหญ่จะสามารถจัดการงานแบบนี้ได้อย่างไร?
คำตอบคือ “เป็นไปได้ถ้าใช้เครื่องมือ social listening หรือ social monitoring”
บริษัทขนาดใหญ่และแบรนด์ต่างๆ มักใช้เครื่องมือนี้เพื่อติดตามลูกค้า และกลุ่มเป้าหมายโดยใช้คำค้นหา (keywords) และ #hashtag เฉพาะอุตสาหกรรม
Snapshot from Twitter
จากภาพด้านบน เห็นได้ว่าลูกค้าไม่ได้ส่งข้อความถึง AWS (Amazon Web Services) โดยตรง แล้วบริษัทสามารถตอบแบบรวดเร็วได้อย่างไร คำตอบคือ – พวกเขากำลัง monitoring อยู่!!
เพราะแบรนด์ติดตามการพูดถึง และ keywords ที่เกี่ยวข้องเลยสามารถตอบกลับได้อย่างรวดเร็ว
การใช้ keywords มีประโยชน์ดังนี้:
- การใช้ keywords และ #hashtag เฉพาะอุตสาหกรรมช่วยเพิ่มการมองเห็นให้แบรนด์ เพราะจะทำให้กลุ่มเป้าหมายค้นพบคอนเทนต์ของแบรนด์ได้บนหน้าฟีด
- ประโยชน์อีกข้อคือ ทำให้แบรนด์ถูกจัดอันดับการค้นหาจาก keywords ที่ใช้ ซึ่งช่วยให้เว็บไซต์อยู่อันดับที่ดีขึ้น, คนเสิร์ชเจอเว็บไซต์มากขึ้น และได้จำนวนคนเข้าชมเพิ่ม
แต่สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ การใช้ keywords และ #hashtag ที่เกี่ยวข้องเท่านั้นถึงจะเกิดประโยชน์ แม้ว่าคอนเทนต์ที่ทำจะมีคุณภาพสูง แต่การใช้คำที่ไม่เกี่ยวข้องจะไม่ช่วยให้คอนเทนต์ถูกค้นพบในกลุ่มเป้าหมายแบบมีประสิทธิภาพได้เลย ดังนั้น การรู้ว่า keywords หรือ #hashtag ที่เกี่ยวข้อง และเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภครวมถึงอุตสาหกรรมจำเป็นต้องมีการทำรีเสิร์ช
เครื่องมือฟรี เช่น Google Trends และ Google keywords planner ถือเป็นตัวช่วยพื้นฐานที่ควรทดลองใช้
3. เรียนรู้พฤติกรรมของผู้บริโภค
ในโลกที่เคลื่อนไหวรวดเร็วแบบนี้ เป็นเรื่องยากที่จะตามให้ทันการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง มันเลยเกิดการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้นในอุตสาหกรรมเพื่อตอบรับทุกความต้องการของลูกค้า แค่ความผิดพลาดเพียงนิดเดียว คู่แข่งก็อาจแย่งลูกค้าของคุณไปได้เลย…
การคำนึงถึงความกังวลของผู้บริโภคด้วยการติดตามการพูดถึง จะช่วยให้แบรนด์มีแผนการทำ positioning strategies ที่ดีขึ้น เช่น หากลูกค้าไม่พอใจกับสินค้าหรือบริการของคู่แข่ง แบรนด์สามารถรีบปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว และมอบสิ่งที่คู่แข่งไม่มีให้กับกลุ่มลูกค้าเหล่านั้น
หากมีเทรนด์ใหม่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรม กลยุทธ์การตลาดในโซเชียลมีเดียของแบรนด์ควรต้องมีคอนเทนต์ตามเทรนด์เพื่อให้เชื่อมสัมพันธ์กับลูกค้าให้ต่อเนื่องตามความสนใจของผู้คน แต่กลยุทธ์ทางการตลาดหรือคอนเทนต์ตามเทรนด์ที่ใช้ต้องสอดคล้องกับลูกค้า และกลุ่มเป้าหมาย ไม่งั้นอาจทำให้ลูกค้าไม่ชอบไม่สนใจได้
Snapshot Social Chain (Twitter)
ตัวอย่างข้างต้น จากข้อมูลที่รวบรวมโดย Social Chain อธิบายว่า Burger King อัปเดตพฤติกรรมของผู้ชม และเทรนด์บนโซเชียลมีเดียได้อย่างไร ผลลัพธ์คือการที่ลูกค้าช่วย Burger King แซงหน้าเอาชนะคู่แข่งได้
การรวมข้อมูลจำนวนมาก และแบ่งกลุ่มข้อมูลตามแต่ละแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างเครื่องมือ Mandala Analytics ช่วยลดภาระงานหนักของนักการตลาด จากข้อมูลการพูดถึง ความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมของคน แบรนด์สามารถเข้าใจสิ่งที่เป็นที่นิยม และชอบมากที่สุดในกลุ่มเป้าหมาย
Mandala Analytics ให้ข้อมูลที่จำเป็นและเป็นข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายหรืออุตสาหกรรมจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย คุณสามารถสร้าง project งานโดยเพิ่ม keywords เฉพาะอุตสาหกรรมเพื่อตรวจสอบการพูดถึงตามช่วงเวลาเฉพาะหรือประเภทการพูดถึง ฯลฯ Image source: Mandala Analytics dashboard
เครื่องมือ Social media monitoring ช่วยวิเคราะห์ความรู้สึกของคนที่มีต่อแบรนด์ และคู่แข่ง เช่น Mandala Analytics มีฟังก์ชัน sentiment analysis วิเคราะห์การพูดถึงในเชิงบวก เชิงลบ หรือเป็นกลางเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณ
คุณสามารถเข้าถึงการพูดถึงโดยรวมในวันที่ระบุได้จากหลายแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
Image source: Mandala Analytics dashboard
4. เพิ่มยอดขายแบบเติบโตจากการรักษาฐานลูกค้า
การหาฐานลูกค้าเป็นเรื่องยากเนื่องจากต้องใช้ความพยายาม และทรัพยากรจำนวนมาก แต่การรักษาลูกค้าเก่าไว้ได้นั้นยากยิ่งกว่า
ตัวอย่างเช่น หากคุณมีร้านกาแฟที่ชอบสำหรับดื่มยามเช้า แต่ร้านไม่มีที่นั่งที่สบาย และใช้เวลาทำกาแฟนานมาก ๆ ลองคิดดูว่า คุณจะไปร้านนั้นบ่อยแค่ไหน? เมื่อถึงจุดหนึ่ง คุณอาจยอมแพ้และมองหาร้านใหม่ แม้ว่ารสชาติจะอร่อยไม่เท่าร้านที่คุณชอบก็ตาม
ดังนั้นเพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีให้ยาวนานกับลูกค้า และปรับปรุงการเติบโตของยอดขาย แบรนด์ต้องรู้จักลูกค้าของตัวเองให้ดีพอ การวิเคราะห์ข้อมูล (แบบอัปเดต) ช่วยให้ได้รับข้อมูลเชิงลึก (insight) ของฐานลูกค้า และกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าของคุณ
ข้อมูลของผู้ใช้งานบนโซเชียลมีเดีย ประกอบด้วย:
1. สินค้าหรือบริการที่ชอบ และไม่ชอบจากแบรนด์ของคุณ
2. แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยม
3. เวลาที่คนยอดนิยมที่คนมีส่วนร่วมกับโพสต์
4. ปัญหา/ข้อข้องใจ
5. Demographics ของคน
เมื่อคุณรวบรวมข้อมูลฉบับอัปเดตแล้ว ข้อมูลดังกล่าวจะระบุระดับความผูกพันระหว่างลูกค้าที่มีต่อแบรนด์
ความสัมพันธ์ของแบรนด์กับลูกค้าปัจจุบันสามารถช่วยสร้างหรือทำลายการรับรู้ของแบรนด์ได้ จากการศึกษาพบว่าผู้ใช้มากกว่าครึ่งแบ่งปันประสบการณ์ของสินค้าหรือบริการใหม่กับเพื่อนหรือครอบครัว ดังนั้นแบรนด์ควรใช้การตลาดแบบปากต่อปาก (word-of-mouth marketing) เพื่อสร้างความภักดีต่อแบรนด์ในหมู่ลูกค้า
การทำกิจกรรมเพิ่มเติม ตัวอย่างเช่น การให้รางวัลหรือคูปอง, การเล่นควิซ, หรือส่งอีเมลวันเกิด ฯลฯ เป็นส่วนช่วยทำให้ลูกค้าของคุณให้มีความสุข
“ยิ่งแบรนด์ส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมกับคนมากเท่าใด แบรนด์ก็จะยิ่งได้รับโอกาสในการแชร์หรือถูกพบเห็นไปยังกลุ่มคนที่กว้างมากยิ่งขึ้นเท่านั้น” แต่นอกจากความสุขของลูกค้าแล้ว สิ่งสำคัญคือ ต้องมั่นใจว่าสินค้าและบริการของคุณมอบความพึงพอใจให้กับลูกค้า
ตัวอย่างด้านล่างสามารถช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้:
1. ทำ Q&A: ถาม-ตอบกับลูกค้าเป็นประจำบนโซเชียลมีเดียช่วยให้แบรนด์ค้นพบปัญหาที่เกิดขึ้น ฟีเจอร์ เช่น Twitter Q&A และ Instagram’s Polls เป็นวิธียอดนิยมสำหรับแบรนด์ในการเข้าถึงลูกค้า และวัดระดับความสนใจได้เป็นอย่างดี
2. ทำให้คอนเทนต์แชร์ได้ง่าย: มันน่าเสียดายถ้าแบรนด์สร้างคอนเทนต์ที่ยอดเยี่ยม แต่ลูกค้าประสบปัญหาในการแชร์กับเพื่อนหรือครอบครัว ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้แนบลิงก์ที่ถูกต้องบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของบล็อก, ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ฯลฯ ของคุณ เพื่อให้ทุกคนแชร์ได้ง่ายขึ้น
3. ง่ายต่อการซื้อ: เพิ่มลิงก์ที่ไปหน้าชอปปิงได้ในโพสต์ของคุณบนโซเชียลมีเดีย เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะซื้อผลิตภัณฑ์ของคุณได้ง่าย แบรนด์สามารถใช้ฟีเจอร์ที่มีบนโซเชียลมีเดียได้ เช่น ลิงก์ชอปปิงของ Instagram และ Pinterest ยิ่งทำให้ประสบการณ์การชอปปิงง่ายขึ้น และเร็วขึ้นสำหรับลูกค้า
สรุปแล้ว Social media monitoring จำเป็นสำหรับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าแบบยาวนานหรือไม่?
คำตอบคือ ใช่อย่างแน่นอน!
การ monitoring บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจใด ๆ ก็ตามในการเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ ความภักดีต่อแบรนด์ และการเพิ่มยอดขายให้เติบโต ยิ่งโซเชียลมีเดียมีข้อมูลอยู่อย่างมหาศาล – แบรนด์เลยจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เครื่องมือที่จะช่วยแบ่งเบาภาระงานของคุณ
ประโยชน์ของ Social media monitoring
1. ติดตามการพูดถึงของแบรนด์ และคู่แข่ง
2. วิเคราะห์ keywords และ hashtags ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม
3. รวบรวม trends และ platforms ยอดนิยมของผู้ใช้งาน
4. ทำ sentiment analysis ในการเข้าใจความคิดของคน
5. รวบรวมอัตราการมีส่วนร่วม (engagement rates) ของคนที่ช่วยให้เข้าใจความสนใจหรือความชื่นชอบที่มีต่อสินค้า และบริการของแบรนด์
“การรวบรวมข้อมูลบนโซเชียลมีเดียแบบปกติอาจทำให้รู้สึกเหนื่อย แต่การใช้ social media monitoring จะทำให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกแบบประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายได้ดีกว่า”
Mandala Analytics เลยเป็นเครื่องมือช่วยแบรนด์ของคุณสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีฟังก์ชันต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เช่น:
- Popular keywords and hashtags: ช่วยให้รู้คำยอดนิยมที่ถูกใช้จากกลุ่มเป้าหมายและคู่แข่ง
- Geolocation: ช่วยในการระบุว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่ที่ไหน และที่ไหนที่แบรนด์ของคุณได้รับความนิยมมากที่สุด
- Top channels: ช่วยค้นพบช่องยอดนิยมและ influencers
- Languages: จำนวนภาษาที่กลุ่มเป้าหมายใช้
- Time: เวลายอดนิยมของคนในการโพสต์ มีส่วนร่วม และเข้ามาโต้ตอบ
- Sentiment: ติดตามความรู้สึกของคนที่มีต่อแบรนด์
- Questions: ช่วยระบุคำถามและปัญหายอดนิยม
- Mentions category: แยกแยะลักษณะของการพูดถึง เช่น การร้องขอ, คำชม, การร้องเรียน, การดูหมิ่น ฯลฯ
- Mention Type: บอกประเภทของการพูดถึง เช่น การกล่าวถึงช่อง, ความคิดเห็น, การตอบกลับความคิดเห็น หรือความคิดเห็นของผู้ใช้งาน
อย่าลืมว่า - การสร้างความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าหากคุณพร้อมที่จะเข้าใจลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าสามารถ ทดลองใช้ Mandala Analytics ได้ฟรีถึง 15 วันเลยตอนนี้
Mandala Team
Creator
Category
Share this post
Search the blog
Mandala Newsletter
Sign-up to receive the latest insights in to online trends
Sign Up