ชื่อว่านักผลิตคอนเทนต์ หรือนักการตลาดหลายคนต้องเคยมีปัญหาที่ว่า “ไม่รู้จะโพสต์เวลาไหนดี?” ยังไม่รู้วิธีในการเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม ไม่แน่ใจว่าเวลาที่เลือกไปจะทำให้คอนเทนต์คนเห็นเยอะจนปังได้รึเปล่า?
วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีเลือกช่วงเวลาโพสต์คอนเทนต์ขายของออนไลน์ยังไงให้เพจของคุณปัง หรืออย่างน้อยก็จะได้รับการตอบรับที่ดีกว่าเดิมกันค่ะ
เนื้อหาในบทความ:
- สิ่งที่ควรเข้าใจก่อนโพสต์
- วิธีเลือกเวลาโพสต์ขายของออนไลน์ให้ปัง
- เครื่องมือช่วยพัฒนาในการโพสต์ให้ปังยิ่งขึ้น
- เคล็ดลับพัฒนาการโพสต์
สิ่งที่ควรเข้าใจก่อนโพสต์
ปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งที่คนมักมองข้ามแต่กลับเป็นเรื่องที่สำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถกำหนดแนวทางหาช่วงเวลาการโพสต์ที่เหมาะสมกับการขายสินค้าบริการบนออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. หัวใจของการขายคือความเข้าใจคน
หัวใจของการขายสินค้าบริการคือ การเข้าใจคนที่เราต้องการขายให้
แบรนด์ต้องมีความเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมาย (ว่าที่ลูกค้า) มีความต้องการ ปัญหา ความคิด พฤติกรรมเป็นอย่างไร
เขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ต้องการเห็นคอนเทนต์แบบไหน เขาเล่นโซเชียลช่วงเวลาประมาณเท่าไหร่ เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้จะทำให้แบรนด์สามารถพิจารณาหรือคัดเลือกการทำคอนเทนต์ และเลือกช่วงเวลาโพสต์ที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้นค่ะ
2. สินค้าบริการต่างกันมีเวลาโพสต์ที่เหมาะสมแตกต่างกัน
เคยลองสังเกตพฤติกรรมของตัวเองกันไหมคะว่า…
ตัวคุณเองสนใจโพสต์เกี่ยวกับอาหารกันช่วงเวลาไหน? ใช่เวลาก่อนอาหารเช้า-กลางวัน-เย็นหรือเปล่า
แล้วถ้าเป็นกาแฟหละ คุณจะเริ่มสนใจหากาแฟดื่มช่วงเวลาไหน? ใช่เวลาก่อนทำงาน หรือตอนบ่ายไหม
ถ้าคุณลองตอบตัวเองแล้วเห็นว่ามีช่วงเวลาที่ต่างกันจริง นั่นก็เพราะว่าสินค้าบริการประเภทต่าง ๆ มีช่วงเวลาที่คนต้องการต่างกัน ดังนั้นสิ่งที่แบรนด์ควรเข้าใจอีกข้อเพิ่มจากกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการขายแล้วก็คือ การเข้าใจช่วงเวลาของความต้องการสินค้าบริการที่คุณกำลังขายอย่างแท้จริง
3. โซเชียลมีเดียมีการแข่งขันกันแบบดุเดือด
จากข้อมูลของเว็บไซต์ Datareportal ที่บอกสถิติจำนวนผู้ใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียล่าสุดของเดือนเมษายน ปี 2023
พบว่า Facebook มีผู้ใช้งานสูงสุดอยู่ที่จำนวนกว่า 2.963 พันล้านคนต่อเดือน
ลองคิดดูว่าการแข่งขันบนโซเชียลที่อยากให้คนเห็นโพสต์จะยากขนาดไหน เพราะจากสถิติเพิ่มเติมบอกว่าเพียงแค่ทุก 1 นาที รูปจำนวนกว่า 240,000 รูปจะถูกอัปโหลดขึ้นบน Facebook ด้วยเหตุนี้ แบรนด์ก็ควรคำนึงถึงการแข่งขันบนโซเชียลกับเพจต่าง ๆ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ในการโพสต์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
จำนวนผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ รายเดือน
Source: Datareportal
วิธีเลือกเวลาโพสต์ขายของออนไลน์ให้ปัง
ในส่วนนี้เราจะมาดูวิธีเลือกโพสต์ขายของออนไลน์ยังไงให้ปัง ซึ่งจะแบ่งเป็นวิธีโพสต์ตามกลุ่มเป้าหมาย, ตามสถิติย้อนหลัง และตามการเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาด
1. โพสต์ตามกลุ่มเป้าหมาย
จากข้างต้นที่เราได้รู้แล้วว่าหัวใจของการขายก็คือ การเข้าใจคนที่เราต้องการขายสินค้าบริการให้
ดังนั้นแบรนด์เลยจำเป็นต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายหรือว่าที่ลูกค้าในอนาคตของตัวเองให้ดีเสียก่อนจะตัดสินใจเลือกเวลาโพสต์นั่นเองค่ะ
เริ่มจากการเก็บรวบรวมข้อมูลต่อไปนี้ เช่น
- ข้อมูลพื้นฐาน: อายุ, เพศ, อาชีพ, การศึกษา, สถานภาพ, รายได้, ภาษา, ที่อยู่อาศัย เป็นต้น
- พฤติกรรม: กิจกรรมที่ทำในชีวิตประจำวัน, งานอดิเรก, การใช้โซเชียลมีเดีย เช่น อุปกรณ์ที่ใช้ ช่วงเวลาที่เล่นบ่อย , การซื้อสินค้าบริการ เช่น รูปแบบ และช่องทางการจ่ายเงิน เป็นต้น
- ความต้องการ: ประเภทของสินค้าบริการที่อยากได้, เป้าหมายในชีวิต
- ปัญหา: ปัญหาที่กำลังเกิด หรือเคยเกิดขึ้นแล้วยังไม่ได้รับการแก้ไข
- ความชอบ: คอนเทนต์, เว็บไซต์, สื่อ, อินฟลูเอนเซอร์, อีเวนต์
- ความสนใจ: ประเภทคอนเทนต์, รูปแบบกราฟิก, สไตล์การใช้คำพูด
เมื่อรวบรวมข้อมูลเหล่านี้มาได้แล้ว แบรนด์ก็จะมีความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย และพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของคนเหล่านั้นมากขึ้น ทีนี้แบรนด์ก็จะสามารถกำหนดช่วงเวลาในการโพสต์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการขาย รวมถึงทำคอนเทนต์ให้ตรงใจมากยิ่งขึ้นแล้วด้วยค่ะ
2. โพสต์ตามสถิติย้อนหลัง
สถิติย้อนหลังเป็นข้อมูลที่สำคัญมาก ๆ เพราะมันทำให้แบรนด์ได้รู้ว่าคอนเทนต์ที่เคยโพสต์ไปแล้วนั้นมีผลตอบรับเป็นอย่างไร ซึ่งจะทำให้เห็นว่าวัน และเวลาในช่วงไหนโพสต์แล้วปังโพสต์แล้วมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ข้อมูลที่ควรเก็บมาวิเคราะห์ เช่น
- แพลตฟอร์ม: เก็บข้อมูลโพสต์แยกตามแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
- ประเภทคอนเทนต์: แยกคอนเทนต์แต่ละประเภท เช่น ขายสินค้าบริการ, รีวิว, แชร์ความรู้, โปรโมชัน เป็นต้น
- วันและเวลา: วันและเวลาที่โพสต์ของคอนเทนต์
- ยอดการมีส่วนร่วม: การมีส่วนร่วมกับโพสต์ทั้งหมด เช่น ยอดไลก์, อีโมจิ, แชร์, คอมเมนต์ หรือยอดวิววิดีโอ
- ความถี่: ความถี่ในการโพสต์คอนเทนต์แต่ละอาทิตย์, คอนเทนต์ประเภทไหนถูกโพสต์ไปกี่ครั้ง
ตัวอย่างเครื่องมือเก็บสถิติ
ถ้าแบรนด์โพสต์ใน Facebook ก็สามารถใช้เครื่องมือ Meta Business Suit ในการเก็บผลทางสถิติของแต่ละโพสต์ย้อนหลัง เพื่อให้สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้นค่ะ
ตัวอย่างการเก็บสถิติของคอนเทนต์ในเครื่องมือ Meta Business Suit
จะเห็นว่าในระบบหลังบ้านสามารถเลือกช่วงเวลาในการเก็บสถิติย้อนหลัง เรียงลำดับของวันที่ลงคอนเทนต์ ยอดการเข้าถึงคน หรือจำนวนไลก์ เพื่อให้แบรนด์เห็นว่าคอนเทนต์ไหนที่ได้รับผลตอบรับดีที่สุด และน้อยที่สุดได้ง่ายค่ะ
3. โพสต์โดยเปรียบเทียบเวลากับคู่แข่ง
การรู้เวลาโพสต์ของคู่แข่งก็จะทำให้แบรนด์ได้เปรียบในการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคู่แข่งก็คือแบรนด์ที่ขายสินค้าบริการเหมือนหรือคล้ายกับเรา และยังเป็นแบรนด์ที่มีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการขายเหมือนกันด้วยเช่นกันค่ะ
แบรนด์สามารถเลือกได้ที่จะโพสต์ชนเวลาใกล้กัน หรือหลีกเลี่ยงกับคู่แข่ง
- โพสต์ในเวลาใกล้กัน: โพสต์ช่วงเวลาใกล้กับช่วงเวลาที่คู่แข่งนิยมโพสต์ เช่น คู่แข่งโพสต์เวลา 15.00 น. แบรนด์ของเราอาจจะโพสต์ช่วงเวลา 14.45 น. ก่อนคู่แข่งเพียง 15 นาที ซึ่งวิธีนี้ก็เหมาะกับแบรนด์ที่มีส่วนแบ่งตลาดใกล้เคียงกันที่จะสามารถแข่งขันกันได้
- โพสต์หลีกเลี่ยงคู่แข่ง: โพสต์ช่วงเวลาหลีกเลี่ยงไม่ให้ชนกับคู่แข่ง เช่น ถ้าคู่แข่งนิยมโพสต์กันในช่วงเวลาประมาณ 13.00-15.00 น. แบรนด์อาจจะหลีกเลี่ยงไปโพสต์ช่วงเวลาตอนเช้าแทน วิธีนี้เหมาะกับแบรนด์ที่ไม่อยากให้คอนเทนต์โดนดันจากเพจคู่แข่ง แต่ต้องอย่าลืมว่าเวลาโพสต์นั้นเหมาะกับสินค้าบริการ และลูกค้ากลุ่มเป้าหมายด้วยนะคะ
เครื่องมือช่วยพัฒนาในการโพสต์ให้ปังยิ่งขึ้น
ตัวอย่าง Video จากทีม Mandala AI
ตัวอย่างเครื่องมือที่แนะนำในการค้นหาข้อมูลมาช่วยเรื่องการโพสต์คอนเทนต์มีชื่อว่า “Mandala Analytics”
เพียงแค่ใส่คำค้นหาที่สนใจลงในหน้าแคมเปญ เช่น “ครัวซองต์”
แบรนด์ก็จะได้ข้อมูล:
- ช่วงเวลาที่คอนเทนต์เกี่ยวกับครัวซองต์ถูกโพสต์บนโซเชียลมีเดียโดยช่องต่าง ๆ
- วันและช่วงเวลาที่คนเข้าไปมีส่วนร่วมกับโพสต์ครัวซองต์สูง เช่น กดไลก์, กดอีโมจิ, กดแชร์, คอมเมนต์
- คอนเทนต์ครัวซองต์ที่คนให้ความสนใจตามช่วงเวลาต่าง ๆ ที่ถูกโพสต์
- ความคิดเห็นของกลุ่มเป้าหมายที่สนใจคอนเทนต์เกี่ยวกับครัวซองต์
ตัวอย่างหน้าตาข้อมูลจากระบบ Mandala Analytics ในฟังก์ชัน Time Analytics ที่ทำให้เห็นว่าคนเข้าไปมีส่วนร่วมกับโพสต์ครัวซองต์ที่ถูกโพสต์ในช่วงเวลา 11.00 น. สูงที่สุด
เคล็ดลับพัฒนาการโพสต์
พัฒนาการทำคอนเทนต์
เวลาโพสต์ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้คอนเทนต์ของแบรนด์ประสบความสำเร็จ สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำคอนเทนต์ให้ดีให้ตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการขายสินค้าบริการให้ด้วย เพราะต่อให้เลือกเวลาที่ดีที่สุดแต่คอนเทนต์ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของคนได้ คอนเทนต์นั้นก็จะไม่ได้รับการตอบรับที่สูงอยู่ดีค่ะ
ตัวอย่างข้อมูลของคอนเทนต์ครัวซองต์ที่คนให้ความสนใจ (มีส่วนร่วมกับโพสต์สูง) ในโซเชียลมีเดียช่องทางต่าง ๆ บนฟังก์ชัน Top Mentions ในเครื่องมือ Mandala Analytics
วัดผลตอบรับอยู่เสมอ
พฤติกรรม และความต้องการของคนย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ในปัจจุบันช่วงเวลานั้นอาจจะดีที่สุดในการโพสต์ แต่ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตช่วงเวลานั้นจะตอบโจทย์ แบรนด์เลยจำเป็นต้องหมั่นวัดผลตอบรับหรือสถิติการโพสต์ แล้วทำการพัฒนาเวลาในการโพสต์อยู่อย่างสม่ำเสมอ
ทดสอบการโพสต์ในเวลาแตกต่างกัน
หากอยากพัฒนาการโพสต์ให้ดียิ่งขึ้น อีกหนึ่งวิธีที่ควรทำเลยก็คือการทดสอบการโพสต์คอนเทนต์แบบเดียวหรือคล้ายกัน (อาจมีการปรับเปลี่ยนแคปชันหรือกราฟิกเล็กน้อย) ในวันและเวลาที่แตกต่างกัน เพื่อวัดผลดูว่าแบบไหนที่ให้ผลตอบรับที่ดีมากกว่ากัน
ตัวอย่างการทำคอนเทนต์แบบเดียวกัน แต่สลับช่วงวันและเวลาแตกต่างกันเพื่อลองวัดผลตอบรับจาก IKEA
สุดท้ายนี้อย่าลืมว่า เวลาโพสต์ที่ปังที่มีประสิทธิภาพก็คือเวลาที่เหมาะกับสินค้าบริการ กลุ่มเป้าหมาย คู่แข่ง รวมถึงสถิติย้อนหลังที่ต้องนำมาพิจารณาร่วมกัน เครื่องมือ Mandala Analytics เป็นตัวช่วยที่ทำให้แบรนด์สามารถวิเคราะห์ปัจจัยเหล่านี้ได้แบบสะดวก และรวดเร็วด้วยการแสดงผลในรูปแบบกราฟที่เข้าใจง่าย
ดังนั้นอย่าพลาดโอกาสสมัครทดลองใช้ Mandala Analytics ฟรีถึง 15 วันได้เลยตอนนี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ plans
บทความอื่น ๆ ที่ไม่ควรพลาด:
- เพราะเหตุใดนักการตลาดถึงควรเลือกใช้ Mandala Analytics
- 5 Steps หาไอเดียการเขียน Content ขายสินค้า
- หาไอเดียเขียน Content ด้วย Trending Topics จาก Mandala
Mandala Team
Creator
Category
Share this post
Search the blog
Mandala Newsletter
Sign-up to receive the latest insights in to online trends
Sign Up