ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในวันนี้แบรนด์จำเป็นต้องใช้อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) หรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ (Key Opinion Leader; KOL) มาช่วยโปรโมทสินค้าบริการ เพราะด้วยชื่อเสียง ด้วยคาแรกเตอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ แถมยังมีฐานผู้ติดตามจำนวนมาก ทำให้ในหลายครั้งการใช้ Influencer ก็ได้ผลลัพธ์ดีกว่าการที่แบรนด์ไปซื้อโฆษณาหรือยิงแอดเอง
แต่การจะเลือก Influencer มาสักคนจากตัวเลือกจำนวนหลายพัน หลายหมื่นที่เหมาะกับแบรนด์ แถมยังวัดผลได้จริงนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ บทความในวันนี้เลยจะเป็นการช่วยแนะนำวิธีผ่านเคสตัวอย่างว่าทำอย่างไรถึงจะเลือก Influencer ที่เหมาะกับแบรนด์ได้จริง
เนื้อหาของบทความ
องค์ประกอบของการเลือก Influencer
ก่อนที่แบรนด์จะเลือก Influencer สักคนนั้นก็มีองค์ประกอบหลายอย่างที่ควรต้องตรวจสอบก่อน
ตัวอย่างเช่น
ตัวอย่างขององค์ประกอบที่แบรนด์ควรตรวจสอบก่อนจะเลือก Influencer ว่าเหมาะสมกับแบรนด์แล้วหรือไม่
จำนวนผู้ติดตาม: Influencer มีจำนวนผู้ติดตามหรือฐานลูกค้าที่เหมาะสมกับสินค้าบริการ และภาพลักษณ์ของแบรนด์หรือไม่
ชื่อเสียง: Influencer คนนี้มีชื่อเสียงในด้านที่ตรงกับแบรนด์หรือไม่ แล้วเคยมีประเด็นดราม่าที่ร้ายแรงเกิดขึ้นบ้างรึเปล่า
บุคลิก: บุคลิกลักษณะของ Influencer เหมาะกับแบรนด์ไหม ตัวอย่างเช่น บางเพจหรือ Influencer เป็นสายตลก แต่สินค้าของแบรนด์ต้องการขายให้คนที่ต้องการความน่าเชื่อถือมาก ๆ การเลือกคนนี้มาโปรโมทสินค้าก็คงไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่
การรับงาน: Influencer คนนี้กำลังรับงานอะไรอยู่บ้าง กำลังรับงานจากสินค้าบริการของคู่แข่งอยู่รึเปล่า เพราะถ้าแบรนด์ไปจ้างก็จะถือเป็นการรับงานซ้อน แถมยังลดความน่าเชื่อถือของการรีวิวลงไปด้วย
ผลลัพธ์: ค่าเฉลี่ยต่อโพสต์ของ Influencer ในภาพรวมดีหรือไม่ เช่น มีค่าการมีส่วนร่วม (Engagement) ไม่ต่ำกว่า 10% หรือว่าดีแค่เฉพาะโพสต์ที่ยิง ADS หรือถูก Boost เท่านั้น
เพิ่มเติม: อ่านสิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือก Influencer แบบละเอียดได้ที่ → เลือกอินฟลูเอนเซอร์มาโปรโมทยังไง
เทคนิคการเลือก Influencer ให้แบรนด์
เห็นแค่องค์ประกอบที่ยกตัวอย่างมาก็รู้สึกเหนื่อยแล้วใช่ไหมคะ แน่นอนว่าการที่แบรนด์จะเลือกใช้ Influencer สักคนนั้นมันเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องหาข้อมูลอย่างละเอียดให้รอบคอบก่อน ไม่งั้นแบรนด์ก็จะเสียทั้งเงิน และเวลาไปแบบไม่คุ้มค่านั่นเอง
ตัวอย่างในวันนี้จะเป็นการหา Influencer มาโปรโมทธุรกิจคาเฟ่ผ่านเคส “คาเฟ่บางแสน”
เหตุผลที่ยกตัวอย่างเป็นคาเฟ่ นั่นก็เพราะว่าคาเฟ่เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการคิดเมนูอาหารเครื่องดื่ม พัฒนารสชาติให้ถูกปากลูกค้า แล้วก็ยังต้องมาคิดเรื่องการตกแต่งให้น่าถ่ายรูปอีกด้วย
คาเฟ่เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงมาก มาดูวิธีกันว่าแบรนด์ควรเลือกใครมาโปรโมทคาเฟ่ให้คนอยากตามรอยไปอุดหนุนบ้าง
การที่จะรวบรวมข้อมูลของการรีวิวคาเฟ่บนโซเชียลมีเดียในระยะเวลาไม่นาน แบรนด์จำเป็นต้องใช้เครื่องมือประเภท Social Listening Analytics ในการทำงาน ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ในตัวอย่างนี้คือ “Mandala Analytics”
อ่านเพิ่มเติม:
มาดูกันว่ารีวิวคาเฟ่จาก Influencer คนไหนจะน่าสนใจ และเป็นโอกาสให้แบรนด์จ้างได้ในอนาคตกันบ้างค่ะ
รอให้ระบบ Mandala Analytics เก็บข้อมูลเสร็จแล้วคลิกเข้ามาในหน้า Dashboard ของแคมเปญคาเฟ่
ขั้นตอนแรกเริ่มจากใส่คำค้นหา (Keyword) ที่ต้องการให้ระบบเก็บข้อมูลมาให้ และคำค้นหาก็ควรครอบคลุมในหัวข้อคาเฟ่ที่บางแสน เช่น “คาเฟ่+บางแสน”, “รีวิว+คาเฟ่+บางแสน”, “cafe+บางแสน” หรือ “รีวิว+cafe+บางแสน” เป็นต้น ส่วนระยะเวลาแบรนด์สามารถเลือกได้เลยตามที่ต้องการ ในตัวอย่างจะเป็นช่วงระหว่างวันที่ 1 ก.พ. - 22 มี.ค. 2022
(ดูวิธีการสร้างแคมเปญแบบละเอียดที่ → สอนสร้าง campaign สำหรับผู้ใช้งานใหม่)
กดเลือกช่องทาง Facebook และคลิกไปที่คำว่า “Engagement”
จากนั้นกดดูข้อมูลในแพลตฟอร์มFacebook เพื่อดูว่าคอนเทนต์จากเพจไหนที่ทำแล้วเกิดการมีส่วนร่วมกับโพสต์ไม่ว่าจะเป็นการกดไลก์, อีโมจิ, แชร์ หรือคอมเมนต์สูงในส่วนที่เรียกว่า Engagement
กดเลือกดูเฉพาะ Comment ตรง Channel Filter by Engagement
ซึ่งในนี้เราจะเลือกดูเฉพาะเพจที่มีคนเข้ามาคอมเมนต์มากที่สุด แล้วทำไมถึงต้องดูที่ยอดคอมเมนต์ด้วย?...เหตุผลก็เพราะว่าในเคสนี้เราอยากได้ช่องที่น่าดึงดูดมากพอให้คนเข้าไปคอมเมนต์หรือแท็กเพื่อน
หลังจากกดเลือกคำว่า Comment แล้วตัวระบบ Mandala Analytics ก็จะเรียงลำดับเพจมาให้ดูเลยแบบอัตโนมัติ
เพจที่มียอดคอมเมนต์เป็นอันดับที่ 1 ของแคมเปญคาเฟ่บางแสน
เมื่อกดดูเพจที่มียอดคอมเมนต์เป็นอันดับที่ 1 แล้วอยากดูรายละเอียดเพิ่มเติมก็สามารถกดเครื่องหมายลูกตาเข้าไปดูที่ต้นโพสต์ได้เลย
ต้นโพสต์รีวิวคาเฟ่บางแสนของเพจ Couple Travel พาแฟนไปไหนดี
จากต้นโพสต์แบรนด์สามารถเข้าไปดูได้ว่าเพจนี้มีการถ่ายภาพ มีการใช้คำพูดเชิญชวน หรือออกแบบการนำเสนออย่างไรที่ทำให้คนให้ความสนใจกันเยอะ แล้วอย่าลืมดูคอมเมนต์ตอบรับด้วยว่าคนพูดถึงอะไรบ้าง
คอนเทนต์อื่น ๆ จากเพจ Couple Travel
ไม่เพียงแต่ดูที่ต้นโพสต์เท่านั้น แบรนด์เองก็ควรดูคอนเทนต์ในภาพรวมอื่น ๆ จากเพจด้วยเพื่อดูผลตอบรับในภาพรวมจากโพสต์อื่น, ดู Mood & Tone การนำเสนอคอนเทนต์ หรือดูการรีวิวคาเฟ่ที่อื่น เป็นต้น ในการประกอบการตัดสินใจว่า Influencer จากเพจนี้ตรงตามองค์ประกอบที่แบรนด์ได้ตั้งไว้หรือไม่
การเลือกเพจ Couple Travel ที่สนใจไปใส่ไว้ใน Focus Channel
ถ้าหากแบรนด์สนใจเพจนี้เป็นพิเศษ และอยากติดตามทุก ๆ โพสต์ที่มาจากเพจนี้ไม่ให้พลาดทุกการเคลื่อนไหวก็สามารถกดเลือกเพจไปที่ Focus Channel ได้เลย
เลือกเพจอื่น ๆ ที่สนใจลงใน Focus Channel ได้ตามที่ต้องการ
สามารถเลือกเพจอื่น ๆ ที่สนใจเอาไว้ใน Focus Channel ได้ตามที่ต้องการ เมื่อเพิ่มเข้าไปสำเร็จแล้วก็จะขึ้นเป็นแถบสีเขียวดังในภาพเลยค่ะ
ดูข้อมูลจากเพจที่กดเลือกเข้ามาใน Focus Channel ได้ที่ Focus Feed ของช่อง Facebook
สำหรับการดูข้อมูลจากเพจทั้งหมดที่ได้เลือกเข้ามาใน Focus Channel สามารถดูได้ที่ฟังก์ชัน Focus Feed ของช่องทาง Facebook แล้วข้อมูลของเพจก็จะแสดงให้เห็นดังภาพเลยค่ะ แต่ในส่วนนี้จะมีให้เลือก 2 แบบคือ
1. Keyword: สำหรับดูเฉพาะโพสต์ที่มีคำค้นหาอยู่ด้วยเท่านั้น เพื่อดูเฉพาะคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับคาเฟ่บางแสนจากเพจนี้
2. All: สำหรับดูทุกโพสต์ที่มาจากเพจนี้ทั้งหมด เพื่อติดตามทุกการอัปเดตคอนเทนต์ทั้งหมดจากเพจนี้
จะบอกว่าประโยชน์ของฟังก์ชัน Focus Feed นี้นอกจากจะช่วยติดตามเพจที่สนใจแล้ว ยังใช้ติดตามความเคลื่อนไหวของเพจคู่แข่งว่ามีการโปรโมทสินค้าบริการ หรือมีโปรโมชันอะไรได้ด้วยเช่นเดียวกัน
ดูสรุปเพจยอดนิยมได้ที่ฟังก์ชัน Channel Summary
สุดท้ายนี้อย่าลืมดูสรุปภาพรวมของเพจหรือ Influencer ยอดนิยมที่จะแสดงค่าผลลัพธ์ต่าง ๆ เช่น ยอด View, Comments หรือ Like เพื่อให้คุณได้เจอ Influencer อีกหลายคนที่เหมาะสำหรับแบรนด์มาโปรโมทสินค้าบริการในอนาคตแบบรวดเร็ว และวัดผลลัพธ์ได้จริงค่ะ
สรุป
ทุกวันนี้แบรนด์ก็ต้องการใช้ Influencer ผู้มีอิทธิพลในการโปรโมทสินค้าบริการให้คนจำนวนมากรู้จัก ส่งเสริมความน่าเชื่อถือจากคำรับรองของคนมีชื่อเสียง และสร้างยอดขายให้เพิ่มมากขึ้น แต่อย่างที่ทราบดีว่าการเลือก Influencer สักคนที่วัดผลลัพธ์หรือสร้างความสนใจได้จริงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
จะดีกว่าไหมถ้าแบรนด์ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการนั่งรวบรวมข้อมูลค้นคว้าข้อมูลจำนวนมาก แล้วใช้ Mandala Analytics หา Influencer ที่คนให้ความชื่นชอบด้วยการช่วยวิเคราะห์ผลข้อมูลโซเชียลให้แบบอัตโนมัติ…เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถนำเวลาที่เหลือไปพัฒนากลยุทธ์การขาย และต่อยอดแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จได้มากขึ้นแล้วค่ะ
ทดลองใช้งาน Mandala Analytics ได้ฟรี 15 วัน
หรือสมัครเพื่อใช้งานเต็มรูปแบบได้ที่ plans
หากมีข้อสงสัยอื่น ๆ เพิ่มเติมสามารถติดต่อทีมขายของเราได้ทาง [email protected]
ยังมีคลิปอื่น ๆ ที่น่าสนใจรอคุณอยู่ อย่าลืมเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ Mandala Academy
Mandala Team
Creator
Category
Share this post
Search the blog
Mandala Newsletter
Sign-up to receive the latest insights in to online trends
Sign Up
