วิธีขายของออนไลน์ สำหรับมือใหม่ และสิ่งที่ควรรู้ในปี 2023

ขายของออนไลน์ หรือ อีคอมเมิร์ช (E-commerce) เป็นอีกหนึ่งช่องทางการขายของที่มีประสิทธิภาพมาก และมีหลาย ๆ คนที่ประสบความสำเร็จจากการขายของออนไลน์ในช่วงโรคระบาด Covid-19 ที่ผ่านมาถึงโรคระบาดจะผ่านช่วงที่พีคสุดไปแล้วแต่พฤติกรรมของผู้บริโภคนั้นไม่ได้ได้เปลี่ยนแปลงจากช่วง Covid-19 จึงทำให้การซื้อหรือขายของออนไลน์ยังได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน

จากข้อมูลจาก Forbes ได้กล่าวไว้ว่า ตลาดอีคอมเมิร์ช หรือ การขายของออนไลน์ จะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และในปี 2023 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 10.4 % เพราะคาดว่าจะมีการซื้อสินค้ารายย่อยผ่านระบบออนไลน์ถึง 20.8 % ในปี 2023 จึงไม่น่าแปลกใจที่ยอดขายของออนไลน์จะเพิ่มขึ้นและมีความต้องการที่สูง เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้นเรื่อย ๆ ธุรกิจของคุณสามารถขายผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น และสร้างรายได้มากขึ้น ไม่ว่าเป้าหมายของคุณคือ การเพิ่มยอดขายเพียงเล็กน้อยหรือต้องการเปลี่ยนธุรกิจจาก Startup ไปสู่องค์กร E-commerce ขนาดใหญ่ การขายของออนไลน์สามารถช่วยได้ บทความนี้จะมาช่วยแนะนำวิธีการขายของออนไลน์เบื้องต้นให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ และแนะวิธีการช่วยให้ประสบความสำเร็จ บรรลุตามที่เป้าหมายที่ได้วางไว้

7 วิธีขายของออนไลน์เบื้องต้น สำหรับเพิ่มยอดขาย

1. กำหนดสินค้าที่ต้องการขาย

จุดเริ่มต้นสำหรับการขายสินค้าออนไลน์ คือ ต้องเข้าใจตัวเองก่อนว่ามีความต้องการที่จะขายอะไร และเรามีความเชี่ยวชาญ สนใจที่จะขายสินค้านั้นจริง ๆ เพื่อเป็นตัวช่วยในการคัดเลือกสินค้า และสามารถตอบคำถามในกรณีที่มีกลุ่มลูกค้าเข้ามาถามเกี่ยวกับโปรดักส์นั้น

2. แหล่งผลิตสินค้า

การหาแหล่งผลิตสินค้าหรือแหล่งที่เราต้องการซื้อสินค้านั้นมาเพื่อจำหน่ายต่อ ซึ่งยิ่งถ้าได้รับของที่มีต้นทุนที่ถูก ก็ยิ่งส่งผลให้มีโอกาสในการทำกำไรได้มากเท่านั้น และจะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จับทางได้ว่าควรซื้อ เลือกสินค้า อะไร หรือขายสินค้าแบบไหน ตรงตามที่ผู้ขายคาดการณ์ไว้หรือไม่ เป็นต้น

3.ช่องทางการขายสินค้า

ในการเลือกช่องทางการขายสินค้าเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากถ้าผู้ขายเลือกขายผิดแพลตฟอร์ม อาจส่งผลให้เกิดความเสียเวลา ผู้คนไม่สนใจสินค้าได้ ซึ่งช่องทางการขายสินค้าออนไลน์ มีช่องทางดังนี้ Facebook Page, Lazada/Shopee/Amazon (E-commerce platform), Instagram, Twitter, TikTok และยังมีอื่น ๆ อีกมากมาย โดยในแต่ละแพลตฟอร์มจะมีพฤติกรรมของผู้บริโภคแตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค หรือ Customer Persona เพิ่มเติมได้ที่นี่

4. เงินทุน และช่องทางการชำระเงิน

การวางแผนเงินทุนเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากการขายของออนไลน์ทุกอย่างล้วนต้องใช้เงินทุนในการลงทุน ควรมีเงินทุนหมุนเวียนในการจัดเตรียมสต๊อกสินค้า ค่าจัดส่งสินค้า ค่าโฆษณาเป็นต้น ในส่วนของช่องทางการชำระเงิน การที่เจ้าของร้านมีช่องทางการชำระเงินหลายช่องทางสามารถช่วยเพิ่มความเร็วในการตัดสินใจของลูกค้าได้ และเจ้าของร้านต้องมั่นใจว่าสามารถเช็คยอดเงินเข้า และออกได้อิสระ เพื่อกำจัดความสับสนของบัญชี และสามารถช่วยกำหนดกำไร - ขาดทุนได้ โดยช่องทางสำหรับการชำระเงินมีดังนี้ 

• การชำระผ่านธนาคาร การโอนเงินผ่านธนาคารเป็นวิธีการที่นิยมใช้กันมาก เพราะเพียงเข้าไปในแอปพลิเคชันของธนาคารก็สามารถกดโอนเงินได้ในไม่กี่วินาที โดยพ่อค้าแม่ค้าสิ่งที่สำคัญ คือ อย่าลืมให้ลูกค้าเขียนแจ้งชำระเงินกับร้านของตัวเองเพื่อเป็นการตรวจสอบ และสบายใจทั้งสองฝ่าย 
• ชำระผ่านบัตรเครดิต การชำระผ่านบัตรเครดิต การที่ร้านค้ามีบริการชำระผ่านบัตรเครดิตสามารถช่วยให้ง่ายต่อการตัดสินใจเช่นเดียวกันในกรณีที่ลูกค้าอยากสะสมแต้มเพื่อแลกสิทธิ์ในบัตรเครดิตหรือซื้อสินค้าในจำนวนมากหรือยอดเงินสูง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า เป็นต้น
• การเก็บเงินปลายทาง การเก็บเงินปลายทางเหมาะสำหรับลูกค้าที่อยากใช้เงินสดชำระเลยเมื่อสินค้ามาถึง หรือต้องการให้บุคคลที่สามหรือเพื่อนเป็นคนชำระปลายทางเอง 

5. สร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ และทำโปรโมชั่นดึงดูดผู้บริโภค

การทำการตลาดออนไลน์มีความจำเป็นอย่างมากในการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับแบรนด์นั้น ๆ หรือการทำโปรโมชั่นต่าง ๆ เนื่องจากบนโลกออนไลน์นั้นมีคู่แข่งค่อนข้างสูง และแข่งกันทำโปรโมชั่นอย่างดุเดือด บางเจ้าขายสินค้าซ้ำกับเราบ้าง บางเจ้าถึงขั้นจ้าง Influencer มีชื่อเสียงในการโปรโมทสินค้าของตัวเองเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าหากแบรนด์ของคุณไม่มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ไม่ทำโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าหรือสร้างความแตกต่างกับร้านค้าอื่น ๆ แบรนด์ของคุณอาจไม่ดึงดูดหรือสร้างการจดจำให้กับผู้บริโภคได้ในช่วงแรกของการเปิดตัวสินค้า

6. ศึกษากฎ และการใช้งานของแต่ละแพลตฟอร์ม

การศึกษากฎหรือการใช้งานของแต่ละแพลต์ฟอร์มมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อจะดึงศักยภาพของแพลตฟอร์มที่เราสนใจมากให้ได้มากที่สุด และเปิดโอกาสให้กับแบรนด์ของเรา เราจำเป็นที่ต้องศึกษาวิธีการใช้งาน และกฎของแพลตฟอร์มนั้น ถ้าหากเราไม่ศึกษากฎวิธีการใช้งานของแพลตฟอร์มนั้น อาจส่งผลให้เราถูกปิดกั้นการมองเห็นหรือส่งผลต่อยอดผู้ชมขณะ Live ขายของสินค้าได้ 

• ศึกษากฎการใช้งานข้อห้ามและกฎการใช้งาน Live Facebook 
• ศึกษากฎการใช้งาน Instagram
• ศึกษากฎการใช้งาน TikTok
• ศึกษากฎการใช้งาน Twitter

7. มี Service mind

Service mind คือการบริการด้วยใจบริการในรูปแบบใจเขาใจเรา ท้ายที่สุดแล้วในการขายของออนไลน์จะไม่เกิดการซื้อซ้ำหรือบอกต่อเลยถ้าหากเจ้าของร้านหรือบุคคลากรทางร้านค้าไม่มีจิตใจในการบริการก็อาจส่งผลให้ลูกค้าไม่เกิดการซื้อซ้ำ และเสียลูกค้าได้ โดยพื้นฐานการมี Service mind ที่ดีคือ การขยันตอบคอมเมนต์ลูกค้าที่สงสัยหรือมีปัญหาในการใช้งาน และกำหนดขอบเขตเวลาร้านเปิด/ปิดอย่างชัดเจนเพื่อหลีกเลี่ยงการที่ลูกค้าเข้ามาโวยวายในช่วงที่เราพักผ่อนหรือปิดร้านอยู่

Social listening tool เป็นตัวช่วยในการช่วยค้นหาสินค้าออนไลน์

สำหรับใครที่ยังไม่รู้จะขายของออนไลน์อะไรดี หรือต้องการไอเดียเสริมสำหรับไกด์ในการค้นหาสินค้าออนไลน์ Social listening tool สามารถเป็นตัวช่วยคุณได้ เนื่องจาก Social listening คือ เครื่องมือที่คอยเก็บข้อมูลบนโลกโซเซียลมีเดีย และสามารถช่วยรวบรวมข้อมูลผู้บริโภคบนโลกออนไลน์ ค้นหาสินค้าที่กำลังขาดตลาด ค้นหาสินค้าที่กำลังได้รับความนิยม ค้นหาสินค้าที่กำลังได้รับความต้องการ ค้นหาไอเดียทำโปรไฟล์หน้าร้านหรือคอนเทนต์ที่ลูกค้ากำลังสนใจ หรือแม้กระทั้งศึกษาโปรโมชั่นจากคู่แข่งทางการตลาด แบรนด์ดัง ๆ ที่เคยประสบผลสำเร็จมาก่อน และท้ายที่สุดสามารถแนะนำช่วงเวลาไหนที่ควรโพสต์ขายของออนไลน์ในแพลตฟอร์มนั้นได้โดยอิงจากสถิติการโพสต์ของคู่แข่ง ทางทีม Mandala AI ขอแนะนำเครื่องมือ Mandala Analytics และ Mandala Cosmos  ซึ่งเป็นเครื่องมือ Social listening & Social Monitoring ที่สามารถช่วยผู้ใช้งานได้อย่างดี

ศึกษาวิธีการใช้งาน Social listening tool ของ Mandala AI 

สรุป

ในปัจจุบันวิธีขายของออนไลน์นั้นมีความหลากหลายเป็นอย่างมากบางเจ้าใช้เครื่องมือ Social listening tool มาเป็นตัวช่วยในการฟังเสียงความต้องการของผู้บริโภคบนโลกโซเชียล บางเจ้าใช้ Influencer / KOL ในการช่วยโปรโมทสินค้าให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น บางเจ้าใช้เทคนิคการ Live, โพสต์รูป แต่งรูปให้ดึงดูด เกาะกระแสเล่นกับคอนเทนต์ที่กำลังเป็นกระแสไวรัล หรือ คิดแคปชั่นที่มีความน่าสนใจ เพื่อดึงดูดลูกค้า ซึ่งส่วนประกอบที่กล่าวมาข้างต้นล้วนสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างกำไรได้เป็นอย่างดี ถ้าหากเรารู้ว่าตลาดมีความต้องการอะไรแล้วสามารถตอบสนองในช่วงเวลาดังกล่าวได้ ก็จะส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ในเชิงบวก และสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอนครับ

สามารถทดลองใช้งานเครื่องมือ Social listening tool ของ Mandala AI ได้ 15 วันฟรี ที่นี่