หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า Big data ในขณะเดียวกันก็ต้องรู้จักเทคโนโลยี 5G เพราะเรากำลังใช้กันอยู่ในปัจจุบัน สำหรับบทความนี้จะขอพูดถึง Big Data ในยุค 5G ซึ่งเทคโนโลยีในยุค 5G นี้คืออะไร มีประโยชน์ต่อเราทุกคนหรือไม่แล้ว Big data จะเข้ามาเกี่ยวโยงกันอย่างไร วันนี้ mandala analytics เราจะมาเล่าให้ฟัง โดยจะนำพาทุกคนมาไขข้อข้องใจและมาหาคำตอบไปพร้อมๆ กัน ดังนี้
Big data ข้อมูลขนาดใหญ่มีความสำคัญอย่างไรในยุค 5G โดย G ที่ว่านี้ก็คือ Generation ใหม่ของเทคโนโลยีเป็นเครือข่ายไร้สายที่มาแทนที่ระบบ 1G 2G 3G 4G ในปัจจุบัน แล้วทุกคนรู้หรือไม่ว่า 5G ที่ว่านี้แตกต่างจากยุค 4G อย่างไร แน่นอนว่าก็ต้องเร็วและแรงขึ้นกว่าเดิม มีการตอบสนองที่ไวยิ่งขึ้นสามารถรับ-ส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วมากกว่าระบบ 4G เป็นการรองรับการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น 10 เท่าเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น จากแต่ก่อนที่สามารถรับคนได้ราว 1 แสนคนต่อ 1 พื้นที่ตารางกิโลเมตร เมื่อ 5G เข้ามาแทนที่ตอนนี้กลายเป็นว่าสามารถรองรับการใช้งานได้ 1 ล้านคนต่อพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตร เป็นต้น
ความเปลี่ยนแปลงในของยุค 5G ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ เรื่องของคุณภาพในการรับชมวีดีโอที่มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น การเล่นเกมออนไลน์ที่มีความเร็วหรือสามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ได้อย่างครอบคลุม ตลอดจนการเข้าถึงข้อมูลที่อยู่บน Cloud ไม่ว่าจะเป็นวีดีโอ รูปภาพ ในแบบที่ต้องการ ตลอดจนการดาวน์โหลดหรืออัพโหลดข้อมูลที่เร็วกว่าเทคโนโลยี 4G นอกจากนั้นเทคโนโลยี 5G ยังถูกนำมาใช้งานในรูปแบบเทคโนโลยีขั้นสูง อาทิเช่น รถยนต์ไร้คนขับ การผ่าตัดจากระยะไกล หรือหุ่นยนต์ในโรงงานที่สำคัญเทคโนโลยี 5G ยังช่วยส่งเสริมและพัฒนาการค้าการระหว่างประเทศ การซื้อของออนไลน์ รวมถึงการใช้งานในด้านอื่นๆทำให้ระบบเมืองเปลี่ยนแปลงไป และอาจกกลายเป็นระบบอัจฉริยะในอนาคต
Big Data ในยุค 5G มีความสำคัญอย่างไร
อย่างที่บอกว่ายุค 5G คือยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เทคโนโลยีที่ว่านี้เป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนในยุคปัจจุบันได้ ทำให้ Big Data เข้ามามีส่วนสำคัญหรือว่าเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนธุรกิจให้สามารถเข้าถึงคนในยุคปัจจุบันได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
ปริมาณข้อมูลที่มากมายมหาศาลซึ่งถูกเก็บไว้ภายในองค์กรหรือธุรกิจ โดยเฉพาะข้อมูลที่สำคัญของลูกค้า เช่น พฤติกรรมการบริโภค ความต้องการสินค้า ฯลฯ เป็นต้น เมื่อ Big data ทำงานด้วยการวิเคราะห์โดย AI เป็นกลไกลสมองอัจฉริยะของเทคโนโลยีเพราะมีประสิทธิภาพความแม่นยำค่อนข้งสูง บวกกับความการทำงานที่รวดเร็วของระบบ 5G จึงทำให้สามารถรับรู้ความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันทีทันใด ยกตัวอย่างเช่น บริษัทอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่หลายเจ้าเลือกใช้ Big Data ในการเก็บข้อมูลที่สำคัญหรือความต้องการสินค้าของลูกค้าในแต่ละคน สำหรับลูกค้าที่ก่อนหน้านี้เคยเข้าไปค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าชนิดนั้นๆ และเมื่อเวลาผ่านไปสินค้าชนิดนั้นๆ จะปรากฏให้เห็นตามเว็บไซต์หรือตาม Social Network ต่างๆ นี่คือกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลของ Big Data ผ่านการทำงานของ AI เพื่อเป็นการตอกย้ำหรือเป็นการขายสินค้าจนนำไปสู่รายได้หรือกำไรมากมายมหาศาลของธุรกิจ
ระบบ AI (Artificial Intelligent)
โดย AI เป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถตัดสินใจแทนมนุษย์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำเมื่อต้องทำงานแข่งกับเวลา หลายคนอาจจะเข้าใจว่า AI คือหุ่นยนต์ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วระบบ AI เป็นกลไกลที่สำคัญคอยควบคุมการทำงานของหุ่นยนต์ เปรียบเสมือนสมองของหุ่นยนต์นั่นเอง โดยคอยควบคุมหรือชี้นิ้วให้สิ่งนั้นๆ สามารถเคลื่อนไหวหรือทำงานได้เป็นการสั่งงานโดยอัตโนมัติให้ระบบต่างๆ มีประสิทธิภาพในการตอบสนองความต้องการของ AI
สำหรับในประเทศไทยของเรามีการใช้การวิเคราะห์แบบ AI ในหลากหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลบุคลากร การคัดแยกบุคลากรที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละประเภท หรือไม่เว้นแม้แต่การใช้ AI เพื่อควบคุมแรงงานเปรียบเสมือนหุ่นยนต์ที่คอยทำงานเพื่อลดต้นทุนในการผลิต
เทคโนโลยีที่เร็วทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ หรือมีเสถียรภาพยกตัวอย่างเช่นเทคโนโลยี 5G จะช่วยให้การวิเคราะห์ Big data สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเป็นผลดีต่อการทำธุรกิจ การค้า และการลงทุนต่างๆ กล่าวคือ 5G สามารถช่วยให้ AI วิเคราะห์ Big Data เพื่อวางแผนด้านการตลาดให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเป็นโซลูชั่นในการวางแผนหรือวางกลยุทธ์ด้านการตลาดนั่นเอง เทคโนโลยี 5G แบ่งออกเป็น 2 สาย ดังนี้
การเชื่อมต่อระหว่างคนกับระบบ : (M2H – Machine to Human) อย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ การที่มนุษย์สื่อสารกับ Robot ผ่านการแชท เพื่อพูดคุยและสนทนาโต้ตอบซึ่งกันและกัน โดยในการสนทนานั้นจะทำงานผ่านระบบ AI ที่มีความรวดเร็วในการประมวลผล Big Data หรือเป็นการผสมผสานระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ในภาคอุตสาหกรรม เป็นต้น
การเชื่อมต่อระหว่างระบบกับระบบ : (M2M – Machine to Machine) อย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ระบบรถยนต์ไร้คนขับที่ตอนนี้กำลังเป็นจุดสนใจของคนทั่วโลก โดยเทคโนโลยี 5G จะสามารถส่งผ่านข้อมูลช่วยให้รถยนต์ไร้คนขับสามารถตอบสนองความการ ขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น รถยนต์ไร้คนขับจะใช้ข้อมูลในการประมวลผลคือ ข้อมูลจากเซ็นเซอร์หรือกล้องที่ติดตั้งไว้ที่รถ และระบบดาวเทียมผ่านการคำนวนเส้นทางโดย AI ตลอดจนสามารถรู้สภาพจราจรล่วงหน้าได้เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบของ Big Data และทำการตัดสินใจในการขับเคลื่อนยานพาหนะออกไปข้างหน้าได้อย่างชาญฉลาด
Mandala Team
Creator
Category
Share this post
Search the blog
Mandala Newsletter
Sign-up to receive the latest insights in to online trends
Sign Up