การพัฒนาของเทคโนโลยีทำให้โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับอุตสาหกรรมการผลิต หรือธุรกิจต่างๆ เพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าในทุกๆ ธุรกิจย่อมเต็มไปด้วยการแข่งขันที่สูง การตลาดจึงเป็นสิ่งสำคัญ อะไรที่จะช่วยให้ธุรกิจอยู่เหนือคู่แข่งได้ คำตอบก็คือ การเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างแท้จริง จนนำไปสู่การวางแผนด้านกลยุทธิ์ให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า ไม่ใช่ลูกค้าในภาพรวมแต่หมายถึง ลูกค้าเป็นรายบุคคล
หากจะจ้างนักการตลาดมานั่งวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภคที่ละคนคงเป็นเรื่องที่ยากเกินความสามารถ ยิ่งต้องทำงานแข่งกับเวลายิ่งแทบเป็นไปไม่ได้เลยเด็ดขาด ดังนั้น ทำให้ต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่าง Big data และ AI บทความนี้ mandala analytics จะขอพูดถึง Big data นวัตกรรม ของปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะน่าสนใจแค่ไหนตามไปดูพร้อมๆ กันเลย
Big data หากจะอธิบายง่ายๆ ก็คือ ระบบที่มีการรวบรวมข้อมูลจำนวนมาก ชนิดที่เรียกว่ามากมายมหาศาล ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลของลูกค้า ไฟล์เอกสาร ไฟล์ภาพ วิดีโอ ฯลฯ เพื่อนำเอาข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์ เรียกว่า Big Data Analytics โดยข้อมูลต่างๆ เหล่านี้มีความสำคัญในด้านธุรกิจเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่จะมีการนำเอาข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อสร้างกลยุททธิ์ทางการตลาด ซึ่งในอดีต Big data ถูกเรียกว่า Data Scientist หมายคือ กระบวนการหาองค์ความรู้ใหม่จากข้อมูลมหาศาล เพื่อใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์และสร้างมูลค่าต่อธุรกิจหรือองค์กร ส่วนใหญ่คนที่วิเคราะห์จะเป็นผู้เชี่ยวชาญเพื่อการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพ เช่น นักวิทยาศาสตร์ จึงถูกเรียกว่า Data Scientist
การนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ดังนี้
Data : คือ ข้อมูลที่เก็บไว้ โดยไม่ได้ถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านใดด้านหนึ่ง หรือเรียกว่า ข้อมูลดิบที่ใช้สำหรับการอ้างอิงแหล่งที่มาเท่านั้น
Information : คือ ข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์ทำให้ทราบข้อมูลเชิงสถิติในขั้นพื้นฐาน หรือช่วยให้ทราบที่มาที่ไปว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
Knowledge : คือ ข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์จนทำให้เกิดเป็นความรู้ ความเข้าใจในระดับหนึ่ง
Wisdom : คือ การนำองค์ความรู้ที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้น ไปพัฒนาต่อยอด หรือนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ขึ้นจริง
AI มีความเกี่ยวข้องกับ Big data อย่างไร
AI (Artificial Intelligence) ปัญญาประดิษฐ์ที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับคำคำนี้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันอย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วในข้างต้นว่า Big data คือข้อมูลขนาดใหญ่ และการจะนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์จนเกิดเป็นความรู้ ความเข้าใจ และนำความรู้หรือข้อเท็จจริงที่ได้มาพัฒนาต่อยอด หรือใช้ให้เกิดประโยชน์ในระดับ Wisdom จำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีที่เรียกว่า AI ในการวิเคราะห์ หลายคนเข้าใจว่า AI คือหุ่นยนต์ แต่ความจริงแล้ว ที่ถูกต้องจริงๆ ก็คือ AI ไม่ใช่หุ่นยนต์แต่เป็นสมองของหุ่นยนต์ต่างหาก สมองที่คอยชี้นิ้วสั่งการเพื่อให้ได้ซึ่งข้อมูลที่ต้องการ ด้วยการทำงานของคอมพิวเตอร์ที่ชาญฉลาด โปรแกร AI ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยมนุษย์ เพื่อช่วยคิดวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึกได้อย่างรวดเร็ว คิดวิเคราะห์ และทำการตัดสินใจแทนมนุษย์ได้
เทคโนโลยี AI ที่ว่านี้ไม่เพียงแต่มีประโยชน์เฉพาะภาคธุรกิจ หรือภาคอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะการนำ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลประชากรในภาคส่วนของรัฐบาล เพื่ออำนวยความสะดวก คัดแยกสถานะของประชากร จัดสรรสวัสดิการ หรือเข้าช่วยเหลือในด้านการอุปโภคบริโภค เป็นต้น
AI มีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร
ลดความผิดพลาดของมนุษย์
หากต้องใช้แรงงานมนุษย์มานั่งวิเคราะห์ข้อมูลที่มีมากมายมหาศาล แน่นอนว่าย่อมเป็นไปได้ยาก และอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้ ยิ่งหากต้องทำงานแข่งกับเวลา ถ้าล่าช้าอาจไม่ทันการ เช่น ในขณะที่เรามัวแต่มานั่งวิเคราะห์ข้อมูลความต้องการของลูกค้า คู่แข่งอาจเดินแซงหน้าเราไปตั้งนานแล้ว จะทำให้เราเสียเปรียบคู่ต่อสู้เป็นอย่างมาก ดังนั้น เพื่อความสะดวกและรวดเร็วจึงมีการใช้ AI มาวิเคราะห์ข้อมูลแทน มันสมองอันชาญฉลาดนี้สามารถช่วยธุรกิจของคุณได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ช่วยในการตัดสินใจของธุรกิจ
AI สามารถประมวลผล โดยนำข้อมูลที่มีมากมายมหาศาลมาวิเคราะห์ และตัดสินใจ เพื่อหาทางเลือกที่ดีที่สุด และเกิดข้อผิดพลาดหรือมีความเสี่ยงน้อยที่สุด ด้วยระยะเวลาอันสั้น โดยเรียกว่าการค้นหาทางเลือกแบบ Optimize และวิเคราะห์ความเป็นเหตุเป็นผลอย่างลึกซึ้ง แม่นยำ ไม่บ่ายเบี่ยง แตกต่างจากการวิเคราะห์โดยมนุษย์ที่มีเรื่องของอารมณ์ และความรู้สึกมาวิเคราะห์ร่วม สิ่งเหล่านี้อาจทำให้ข้อมูลเกิดความผิดพลาดได้
สร้างความประทับใจให้ลูกค้า
ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ก็คือ Chatbot การโต้ตอบกับมนุษย์เสมือนคนจริงๆ เพื่อรับมือกับลูกค้าที่มีจำนวนมาก จากข้อมูลการสอบถามของลูกค้า AI สามารถประมวลผลพฤติกรรมของลูกค้าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำการตลาดออนไลน์ที่มีการซื้อขายสินค้า ด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าทั้งก่อนซื้อและหลังซื้อสินค้า เพื่อให้ธุรกิจนั้นๆ สามารถเลือกสินค้าที่ตรงใจผู้ซื้อได้มากที่สุด แถมยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายอีกด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ประโยชน์บางส่วนเท่านั้น AI ยังมีประโยชน์อีกมากมาย อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่ามีประโยชน์ในทุกภาคส่วนไม่เพียงแต่ธุรกิจหรืออุตสาหกรรมเท่านั้น ปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาวิเคราะห์ข้อมูลใน Big data กันอย่างแพร่หลาย จนกลายเป็นกระแสความนิยม อย่างไรก็ตามมีเรื่องที่น่าฉุดคิดอยู่อย่างหนึ่งคือ หากในอนาคตมีการใช้ AI เข้ามาแทนที่มนุษย์ จะมีสายอาชีพใดบ้างที่ถูกเลิกจ้างและตกงาน ที่สำคัญหาก AI ที่ว่ามีความฉลาดสุดล้ำเกินกว่าที่เทคโนโลยีใดจะต้านทานได้ บางครั้งความฉลาดของมันอาจกลายเป็นอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หากมนุษย์ที่หิวกระหายใช้งานในทางที่ผิด ซึ่ง Mandala analytics ได้นำมาแชร์เพื่อเป็นความรู้ให้กับทุกคน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อทุกคนไม่มากก็น้อย สามารถทดลองใช้เครื่องมือ Mandala Analytics ฟรี ได้ที่ Free Trial 7 day
Mandala Team
Creator
Category
Share this post
Search the blog
Mandala Newsletter
Sign-up to receive the latest insights in to online trends
Sign Up