เมื่อพูดถึงแพลตฟอร์มอย่าง ทวิตเตอร์ ผู้ใช้งานส่วนใหญ่คือกลุ่มวัยรุ่น หรือวัยทำงาน แต่ในบางครั้งก็ได้รับความมนิยมในกลุ่มผู้สูงอายุเช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะใช้ ทวิตเตอร์ เพื่อติดตามข่าวสาร ติดตามคนที่ชื่นชอบ เช่น ดารา คนดังระดับโลก เน็ตไอดอล หรือแม้แต่ทีมฟุตบอล นอกจากการใช้ติดตามข่าวสาร และติดตามคนที่ชื่นชอบแล้ว ผู้ใช้งานยังสามารถโพส รีทวีตข้อความ กดไลค์ กดแชร์ หรือแสดงความคิดเห็นต่างๆ ได้อีกด้วย โดยเฉพาะการติดแฮชแท็กที่สร้างกระแสใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นมา
การรีทวีต (Retweet) ถือว่าเป็นส่วนสำคัญของการโต้ตอบทางสังคมบน Twitter คุณรู้หรือไม่ว่า 71% ของทวีตทั้งหมดไม่ได้รับการตอบสนอง? ทวีตเพียง 6% เท่านั้นที่ได้รับการรีทวีต และ 23% ได้รับการตอบกลับ
ทั้งหมดนี้ ไม่เพียงแต่สร้างความสนุกสนาน เพลินเพลินใจ ให้กับผู้ใช้งานเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ธุรกิจออนไลน์สามารถสร้างกำไร หรือเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย วันนี้เราจะขอพูดถึง การเพิ่มยอดขายจากการ Retweet ไปดูกันว่าการ Retweet นั้นสามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างไร
Retweet คืออะไร ?
Retweet (รีทวีต) คือ Feature หนึ่งของ Twitter เป็นการกดแชร์ทวีต เพื่อให้ข้อความนั้น ไปแสดงบนไทม์ไลน์ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อผู้ใช้งานเห็นข้อความทวีตของใครโดนใจ สามารถกด Retweet เพื่อส่งต่อไปยัง Followers คนอื่นๆ ให้พวกเขาสามารถเห็นได้ทันที โดยผู้งานสามารถที่จะกด Favorite หรือรูปหัวใจ เพื่อให้สามารถย้อนกลับมาอ่านทวีตนั้นได้อีกครั้ง
ความสำคัญของการ Retweet
1.Build audience engagement
การ Retweet สามารถช่วยเพิ่มการมองเห็นของทวิตได้ เช่น ในกรณีที่ Influencer หรือ บุคคลที่มีชื่อเสียงได้ Retweet คอนเทนต์ของคุณก็จะช่วยให้ Follower ของ Influencer นั้นมองเห็นคอนเทนต์ของคุณได้
รูปภาพตัวอย่างการ Tweet งาน Event Apple 2023
2.Build following and grow your brand
ถ้าหากคุณทวิตในสิ่งที่น่าสนใจ หรือทวิตในเรื่องที่กำลังเป็นกระแส ก็สามารถทำให้ผู้คนสนใจคอนเทนต์ของคุณได้ และสามารถช่วยเพิ่มยอด Follower ของ Brand ได้เช่นกัน
3.It helps your followers
การรีทวิตที่น่าสนใจจากคอนเทนต์ของ Influencer หรือผู้มีอิทธิพลในอุตสหกรรม นั้นจะมีประโยชน์ต่อคนที่ Follow คุณด้วย เพราะการรีทวิตจะเป็นเหมือนการแชร์ข้อมูลใหม่ ๆให้กับคนที่ Follow คุณได้รับทราบถึงข่าวสารที่คุณสนใจ
Retweet สามารถช่วยเพิ่มยอดขาย การตลาดออนไลน์ ได้อย่างไร
การ Retweet หรือ RT เป็นอีกหนึ่งเทคนิคในการสร้าง Engagement บนช่องทาง Twitter โดย Twitter Engagement หมายถึง การที่ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมกับโพสของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการกดถูกใจ การแสดงความคิดเห็น การคลิกลิงก์ หรือการ รีทวีต นั่นเอง การมีส่วนร่วมของลูกค้าสามารถบ่งบอกถึงโอกาสในการเพิ่มยอดขาย ทำให้ธุรกิจของคุณมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ Retweet ยิ่งมีจำนวนมากเท่าไหร่ ยิ่งส่งผลดีต่อธุรกิจของคุณ การ Retweet จะช่วยกระจายข่าวสาร หรือกระจายโฆษณาทำให้ลูกค้าคนอื่นๆ รู้จักแบรนด์ของคุณเพิ่มมากขึ้น Retweet จึงเป็นการโฆษณาที่อาศัยแรงของลูกค้า โดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลา หรือเสียเงินในการสร้างโฆษณาด้วยตนเอง
โพสต์อย่างไรให้โดนใจผู้บริโภค
หากคุณต้องการให้ผู้ใช้งาน หรือลูกค้าใน Twitter เกิดการ Retweet โพสต์ของคุณมากที่สุด แน่นอนว่าคอนเทนต์ของคุณต้องมีความน่าสนใจ โดยใช้เทคนิค ดังต่อไปนี้
- คอนเทนต์ สั้น กระชับ อ่านแล้วเข้าใจง่าย
อันดับแรกเลย ภาษาที่คุณใช้เป็นสิ่งสำคัญ เมื่ออ่านแล้วต้องเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน รวมถึงเป็นข้อความที่สั้น กระชับ ได้ใจความ เนื่องจาก Twitter จะมีความแตกต่างจากโซเชียลมีเดียประเภทอื่นๆ คือหน้าฟีด หรือ Timeline จะถูกเลื่อนผ่านไปเร็วมากๆ ด้วยความที่ News Feed ที่เลื่อนผ่านไปเร็วนี้ ส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค พวกเขาจะไม่สะดุด หรือหยุดดู จนกว่าจะเจอข้อความหรือโพสที่โดนใจ ดังนั้น การสร้างคอนเท้นต์ต้องเน้นที่ความสั้น กระชับ อ่านแล้วเข้าใจง่าย แม้อาจจะไม่โดนใจผู้บริโภค แต่อย่างน้อยการสื่อสารที่ดี ในเวลาอันรวดเร็ว คุณก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว
- ใช้ Hashtag ให้เกิดประโยชน์
อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่ากระแสการติด Hashtag ของ Twitter ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นกระแสอะไรก็ตาม เรียกได้ว่าการติดแฮชแท็กนี้เป็นฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ Twitter เลยก็ว่าได้ เช่นเดียวกันหากธุรกิจออนไลน์ ต้องการให้โพส หรือการกระจายข่าวสารนั้น ส่งตรงไปยังผู้บริโภคอย่างกว้างขวาง ทำให้ผู้คนรู้จักสินค้ามากขึ้น อาจต้องติดแฮชแท็กลงไปในคอนเทนต์นั้นด้วย โดยเป็นแฮชแท็กที่อยู่ในกระแส หรือติดเทรนด์ในช่วงเวลานั้นๆ ข้อควรระวังคือ ต้องติดแฮชแท็กให้เข้ากับคอนเทนต์ด้วย เพื่อให้ดูเหมาะสมกลมกลืน เพราะสิ่งที่จะได้มากกว่าการRetweet คือการFollow เรากลับ ทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์ของเราเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
- ใช้เครื่องมือ Twitter Analytics
Twitter Analytics เป็นเครื่องมือที่ใช้ดู Insight ของผู้ติดตาม ทำให้คุณสามารถมองภาพได้กว้างมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร เพศไหน หรือมีอายุเท่าไหร่ ตลอดจนได้รู้ว่าพวกเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร การได้รู้พฤติกรรมของผู้บริโภค หรือลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย คุณสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาสร้างสรรค์คอนเทนต์ เพื่อตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงจุด เช่น หากพบว่าลูกค้ากลุ่มวัยรุ่ย ทีมีอายุตั้งแต่ 15-25 ปี มีความสนใจสินค้าของคุณมาก คอนเทนต์ที่ใช้ในการโพส อาจต้องใช้ภาษาที่โดนใจวัยรุ่น หรืออาจดูว่าพวกเขามีพฤติกรรมสนใจเรื่องใด ก็สามารถนำเรื่องนั้นมาสร้างเป็นประเด็น เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม จะทำให้แบรนด์ของคุณน่าสนใจมากขึ้น
อย่างไรก็ตามคอนเทนต์ ไม่ได้มีเพียงแค่ข้อความ หรือตัวหนังสือเพียงอย่างเดียว โดยคุณอาจสร้างคอนเทนต์เป็นรูปภาพ วิดีโอสั้นๆ หรือ Media ในด้านอื่นๆเพื่อให้เหมาะสมกับสิ่งที่ต้องการจะสื่อสารออกไป หากคอนเทนต์ของคุณดี เป็นคอนเทนต์ที่อยู่ในกระแส สั้น กระชับ อ่านแล้วเข้าใจง่าย หรือใช้แฮชแท็กให้เกิดประโยชน์ ซึ่งเทคนิคต่างๆ ที่เราได้แนะนำไป จะช่วยให้โพสของคุณมีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้น เมื่อลูกค้าชอบใจ หรือเห็นว่าเป็นประโยชน์จะเกิดการแชร์ หรือ Retweet จนทำให้แบรนด์ของคุณกลายเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น รับรองว่ายอดขายของคุณต้องปัง! แน่นอน
และหากคุณกำลังคิดว่าจะสร้างคอนเทนต์อย่างไรให้โดนใจ เพื่อให้เกิดการ Retweet มากที่สุด เราขอแนะนำ Mandala Analytics โปรแกรมอัจฉริยะที่มี AI ช่วยวิเคราะห์ Big data ทำให้คุณสามารถวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภคบนสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะโซเชียลมีเดียได้ ผ่านระบบ Listening and Monitoring ที่จะวิเคราะห์ข้อมูลของผู้บริโภคในเชิงลึก เพื่อดูความเคลื่อนไหวของลูกค้า ตลอดจนความเคลื่อนไหวของคู่แข่ง โดยสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ หรือวางกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ได้อย่างเหมะสม ที่สำคัญยังสามารถใช้งานได้หลายแพลตฟอร์ม เช่น Facebook ,Twitter ,Instagram, TikTok และ YouTube เป็นต้น
สามารถทดลองใช้งานเครื่องมือ Social listening tool ของ Mandala AI ได้ 15 วันฟรี ที่นี่
Mandala Team
Creator
Category
Share this post
Search the blog
Mandala Newsletter
Sign-up to receive the latest insights in to online trends
Sign Up